คำถาม : ตรวจเส้นผม สามารถหาสารเสพติดได้ย้อนหลังกี่วัน ?
คำถาม : ตรวจเส้นผม สามารถหาสารเสพติดได้ย้อนหลังกี่วัน ?
การตรวจเส้นผมสามารถตรวจหาสารเสพติดได้ย้อนหลังได้นานกว่าการตรวจปัสสาวะหรือเลือด เนื่องจากสารเสพติดจะสะสมในเส้นผมและเติบโตไปกับเส้นผม โดยทั่วไปสามารถตรวจพบได้ดังนี้
ระยะเวลาการตรวจพบสารเสพติดในเส้นผม
1. ย้อนหลังได้ประมาณ 3-6 เดือน(ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม)
เส้นผมยาว 1 นิ้ว (2.54 ซม.) ตรวจย้อนหลังได้ 1เดือน(เพราะผมยาวเดือนละ ~1 ซม.)
หากเส้นผมยาว 3 นิ้ว ตรวจย้อนหลังได้ 3เดือน
เส้นผมที่ยาวมากอาจตรวจย้อนหลังได้ถึง 6เดือน หรือมากกว่า
2. บางกรณีอาจตรวจได้นานถึง 12 เดือน (หากเก็บผมจากบริเวณที่ยาวมากและไม่ตัดผมเป็นเวลาน)
สารเสพติดที่มักตรวจพบในเส้นผม
กัญชา (THC)
แอมเฟตามีน / ยาบ้า (Methamphetamine)
โคเคน (Cocaine)
เฮโรอีน (Heroin)
เอ็มดีเอ็มเอ (MDMA หรือ ยาไอซ์)
ปัจจัยที่ผลตรวจ
ความยาวและสภาพเส้นผม
ความถี่และปริมาณการใช้สารเสพติด
วิธีการตรวจ (บางวิธีมีความไวสูงกว่าชนิดอื่น)
การตรวจสารเสพติดในเส้นผมเชิงลึกทางการแพทย์
การตรวจสารเสพติดในเส้นผม (Hair Drug Testing) เป็นวิธีการตรวจที่มีความแม่นยำสูงและสามารถย้อนหลังได้ไกลกว่าการตรวจปัสสาวะหรือเลือด เนื่องจากสารเสพติดจะถูกเก็บไว้ในเคราติน (keratin) ของเส้นผมขณะที่มันเติบโต โดยกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับกลไกทางชีววิทยาและเคมีที่ซับซ้อน
1.กลไกการสะสมสารเสพติดในเส้นผม
เมื่อบุคคลใช้สารเสพติด สารเหล่านั้นจะเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปยังรูขุมขน (hair follicles) จากนั้นจะถูกจับกับเมลานินและโปรตีนในเส้นผม โดยเฉพาะ เคราตินทำให้สารเสพติดถูก "ฝัง" ไว้ในเส้นผมขณะที่มันงอก
อัตราการงอกของเส้นผม: โดยเฉลี่ย ~1 ซม./เดือน
(อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสุขภาพ)
ระยะเวลาการตรวจพบ: ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผมที่นำมาตรวจ
2.เทคนิคการตรวจสารเสพติดในเส้นผม
(1) ELISA (Screening Test)
เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยเทคนิค enzyme-Linked Immunosorbent Assay
ตรวจหาสารกลุ่มต่างๆ เช่น แอมเฟตามีน, โคเคน, กัญชา, โอปิออยด์
ข้อจำกัด อาจให้ผลบวกปลอม (false positive) จากสารที่มีโครงสร้างคล้ายกัน
(2) GC-MS / LC-MS/MS (Confirmatory Test)
Gas Chromatography-Mass Spectrometry (GC-MS)
Liquid Chromatography-Tandem Mass Spectrometry (LC-MS/MS)
เป็นการยืนยันผลด้วยวิธีทางเคมีที่แม่นยำสูง ระบุชนิดและปริมาณของสารได้
3.ระยะเวลาการตรวจพบสารเสพติดแต่ละชนิด
สารเสพติด ระยะเวลาตรวจ
กัญชา (THC)| 36 เดือน (ขึ้นอยู่กับการใช้บ่อย)
|โคเคน 3-6เดือน
| แอมเฟตามีน/ยาบ้า 3-6เดือน
| เฮโรอีน/มอร์ฟีน36 เดือน
| MDMA (ยาไอซ์36 เดือน
| เมทาโดน | 36 เดือน |
หมายเหตุ
หากเส้นผมสั้น (<1 ซม.) อาจตรวจได้เพียง 1-2 เดือน
หากเส้นผมยาว (>6 ซม.) อาจตรวจย้อนหลังได้6เดือนขึ้นไป
4.ปัจจัยที่ผลตรวจ
(1) สีและชนิดของเส้นผม
ผมสีเข้ม (มีเมลานินสูง)จับสารเสพติดได้มากกว่าผมสีอ่อน
ผมตรง vs ผมหยิก โครงสร้างผมอาจการดูดซับสาร
(2) การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม
สระผมบ่อย, ใช้สารฟอกสี, ยืดผมอาจลดความเข้มข้นของสาร แต่ไม่ทำให้หายหมด
สารเคลือบผม (เช่น เจล, แวกซ์)ไม่มีผลต่อผลตรวจ
(3) การปนเปื้อนภายนอก (External Contamination)
การสัมผัสควันกัญชาหรือโคเคนโดยตรงอาจทำให้ผลตรวจเป็นบวกได้ แต่ GC-MS/LC-MS/MS สามารถแยกแยะได้ว่าสารนั้นมาจากการใช้จริงหรือการปนเปื้อน
5.ข้อดีและข้อจำกัดของ Hair Drug Testing
ข้อดี
ตรวจย้อนหลังได้นาน (36 เดือน หรือมากกว่า)
ยากต่อการหลอกลวง (ต่างจากการตรวจปัสสาวะที่อาจถูกเจือจาง)
เก็บตัวอย่างง่ายและเสถียร (ไม่ต้องแช่เย็นเหมือนเลือดหรือปัสสาวะ)
ข้อจำกัด
ไม่เหมาะสำหรับตรวจการใช้สารเสพติดล่าสุด (710 วันที่ผ่านมา)เพราะเส้นผมต้องใช้เวลาในการงอกและจับสาร
ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจปัสสาวะหรือเลือด
ผลตรวจอาจโดยสีผมและพฤติกรรมการดูแลผม
6.การนำไปใช้ในทางนิติวิทยาศาสตร์และสถานพยาบาล
นิติวิทยาศาสตร์ใช้ในคดีอาชญากรรม, การตรวจพนักงาน, คดีครอบครัว
การแพทย์ ตรวจประวัติการใช้ยาในผู้ป่วยยาเสพติดหรือโปรแกรมบำบัด
กีฬา: ตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬา
สรุป
การตรวจสารเสพติดในเส้นผมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการตรวจย้อนหลัง 3-6เดือนขึ้นอยู่กับความยาวของผม และใช้หลักการทางเคมีเช่น GC-MS/LC-MS/MSเพื่อยืนยันผล หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์หรือนักพิษวิทยาเพื่อการตีความผลที่ถูกต้อง! การตรวจสารเสพติดในเส้นผม: การวิเคราะห์เชิงลึกทางพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์
การตรวจสารเสพติดในเส้นผม (Hair Forensic Toxicology) เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน อาศัยหลักการทาง เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics) และ เคมีวิเคราะห์ (Analytical Chemistry) เพื่อระบุและวัดปริมาณสารเสพติดที่สะสมในเส้นผม โดยสามารถแบ่งการศึกษาออกเป็นหลายมิติ ดังนี้
1.กลไกการเข้าสู่เส้นผมทางวิทยาศาสตร์ (Drug Incorporation Mechanisms)
สารเสพติดสามารถเข้าไปอยู่ในเส้นผมได้ 3 ทางหลัก:
(1) การแพร่ผ่านเลือด (Blood Diffusion)
สารเสพติดในเลือด (systemic circulation)จะแพร่เข้าสู่ เมทริกซ์เส้นผม (hair matrix)ผ่าน เส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงรากผม (capillaries around hair follicles)
กระบวนการ
สารเสพติดถูกขนส่งผ่าน พลาสมา (plasma)เข้าสู่เซลล์สร้างเคราติน (keratinocytes)ถูกตรึงในเส้นผมขณะงอก
ปัจจัย
ความสามารถในการละลายในไขมัน (Lipophilicity): สารเช่น THC, โคเคน จับกับเส้นผมได้ดีเพราะละลายในไขมันสูง
การจับกับโปรตีน (Protein Binding)สารเช่น แอมเฟตามีน จับกับเมลานิน (melanin) ในผมสีเข้มได้มากกว่าผมสีอ่อน
(2) การแพร่ผ่านเหงื่อและซีบัม (Sweat & Sebum Diffusion)
สารเสพติดบางส่วนถูกขับออกทางเหงื่อและน้ำมันผิวหนัง sebumซึมเข้าเส้นผมจากภายนอก (external deposition
ปัญหาการปนเปื้อน (External Contamination)อาจทำให้ผลตรวจเป็นบวกปลอม หากไม่ทำ การล้างตัวอย่าง (decontamination)ก่อนวิเคราะห์
(3 ) การดูดซับจากสิ่งแวดล้อม (Environmental Exposure)
การสัมผัส ควันกัญชา, โคเคนแบบผง อาจตกค้างบนเส้นผม แต่เทคนิค Segmental Analysisและ Wash Proceduresช่วยแยกแยะได้
2.เทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง (Advanced Analytical Techniques)
(1) การเตรียมตัวอย่าง (Sample Preparation)
ขั้นตอนการล้าง (Washing)ใช้ เมทานอล, อะซีโตนหรือ Sodium Dodecyl Sulfate (SDS) เพื่อกำจัดสารปนเปื้อนภายนอก
การย่อยสลาย (Digestion): ใช้ เอนไซม์ (Proteinase K) หรือ ด่าง (NaOH) เพื่อสลายเคราตินและปลดปล่อยสารเสพติด
(2) การตรวจคัดกรอง (Screening)
Radioimmunoassay (RIA)
ELISA (Enzyme-Linked Immunosorbent Assay)
ตรวจหาสารกลุ่ม โอปิออยด์, แอมเฟตามีน, THC
Cut-off Levels: เช่น THC ต้องมี 1 pg/mg เพื่อนับว่าบวก
(3) การยืนยันผล (Confirmation)
| Technique | หลักการ
| GC-MS (Gas Chromatography-Mass Spectrometry) | แยกสารด้วย GC ระบุด้วย MS | ความจำเพาะสูง, ตรวจ trace amounts |
| LC-MS/MS (Liquid Chromatography-Tandem MS) | ใช้สำหรับสารที่แตกตัวง่าย (เช่น โคเคน) | ความไวสูง, ตรวจหลายสารพร้อมกัน |
| TOF-MS (Time-of-Flight MS)วัดมวลสารด้วยเวลาเคลื่อนที่ | ใช้ในนิติวิทยาศาสตร์ขั้นสูง |
3.เภสัชจลนศาสตร์ในเส้นผม (Pharmacokinetics in Hair)
(1) อัตราการงอกของผมและระยะเวลาตรวจพบ
เส้นผมงอก ~0.81.2 cm/เดือนแต่ละเซกเมนต์ของผมแสดงประวัติการใช้ยา แบบเวลาแน่นอน (Timeline)
Segmental Analysis
ตัดผมแบ่งเป็นช่วงๆ (เช่น ทุก 1 ซม.) วิเคราะห์เพื่อดูประวัติการใช้ย้อนหลัง
(2) ปัจจัยการสะสมในเส้นผม
ปัจจัย
| pH ของหนังศีรษะ| สภาพกรด-ด่างการจับสารเสพติดกับเคราติน
| อัตราการเผาผลาญ (Metabolism)สารเมแทบอไลต์บางชนิด (เช่น Benzoylecgonine จากโคเคน) อาจตรวจพบได้นานกว่า |
ยาฆ่าเชื้อรา/ยาเคมีบำบัด อาจรบกวนการเติบโตของผม ผลตรวจ |
4.การตีความผล (Interpretation Challenges)
(1) ปัญหาผลบวกปลอม (False Positives)
การปนเปื้อนภายนอกเช่น สัมผัสโคเคนในสภาพแวดล้อม
แก้ไขโดยตรวจหา เมแทบอไลต์เฉพาะ (เช่น Cocaine Benzoylecgonine)
การใช้ยาที่ถูกกฎหมาย เช่น ยาแก้ไอที่มีโคเดอีน ต้องตรวจควบคู่กับประวัติผู้ป่วย
(2 ) ปัญหาผลลบปลอม (False Negatives)
ผมบาง/ผมเสียจากสารเคมี: อาจมีสารเสพติดน้อยเกินไป
การใช้สารเสพติดปริมาณต่ำมาก (Chronic Low-Dose Use)
5.การประยุกต์ใช้ในทางนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Applications)
(1) การตรวจสอบการเสียชีวิต (Postmortem Toxicology)
ใช้เส้นผมเพื่อยืนยัน ประวัติการใช้ยา ในศพที่สลายแล้ว (เมื่อเลือดหรือปัสสาวะไม่เหลือ)
(2 ) การตรวจในเด็กและทารก (Pediatric Testing)
ตรวจสารเสพติดในแม่ตั้งครรภ์ผ่านผมทารก เพื่อประเมิน การสัมผัสสารในครรภ์
(3) การตรวจในสัตว์ (Veterinary Forensics)
ใช้เส้นผมสุนัขตรวจหาสารพิษหรือยาเสพติดในคดีทารุณสัตว์
6.งานวิจัยล่าสุดและเทคนิคใหม่ๆ
การใช้เลเซอร์ไมโครดิสเซกชัน (Laser Microdissection)เพื่อวิเคราะห์เฉพาะเซลล์ในเส้นผม
โปรตีโอมิกส์ (Proteomics)ศึกษาการจับสารเสพติดกับโปรตีนในผม
การตรวจสารเสพติดในเส้นขนอื่นๆ (Axillary Hair, Beard)
สรุปเชิงเทคนิค
การตรวจสารเสพติดในเส้นผมเป็นวิธีการที่ แม่นยำและน่าเชื่อถือแต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยทางชีววิทยา เคมี และสิ่งแวดล้อมที่อาจผล การใช้เทคนิค GS-MS/LC-MS/MSร่วมกับ Segmental Analysisช่วยเพิ่มความถูกต้อง และจำเป็นต้องมี ผู้เชี่ยวชาญพิษวิทยา (Toxicologist)เป็นผู้ตีความผลเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด