วันที่ 25 สิงหาคม : วันบะหมี่สำเร็จรูปสากล (Instant Ramen Day)
วันบะหมี่สำเร็จรูปสากล (Instant Ramen Day) ตรงกับวันที่ 25 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งวันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงการเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติแรกของโลก คือ "ชิกเก็น ราเมน" (Chicken Ramen) โดยบริษัทนิชชินฟูดส์ (Nissin Foods) ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501)
ที่มาและประวัติความเป็นมา
ผู้คิดค้น: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกคิดค้นโดย นายโมโมฟุกุ อันโด (Momofuku Ando) ผู้ก่อตั้งบริษัทนิชชินฟูดส์ การคิดค้นนี้เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ️ โดยอันโดต้องการสร้างอาหารที่ง่ายต่อการเตรียม ราคาถูก และมีรสชาติอร่อย เพื่อแก้ปัญหาความหิวโหยของประชาชน
แนวคิด: อันโดไม่เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นกินขนมปังจากข้าวสาลีที่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา เพราะเขาเชื่อว่าคนญี่ปุ่นควรได้กินอาหารที่คุ้นเคยเช่นบะหมี่หรือราเมน เขาจึงทดลองนำเส้นราเมนที่ผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ ไปทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้น ทำให้เก็บไว้ได้นานและสามารถคืนสภาพเดิมได้โดยการเติมน้ำร้อน
การพัฒนา: หลังจากประสบความสำเร็จกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซอง ในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) อันโดก็พัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย (Cup Noodle) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
ความสำคัญและการยอมรับในระดับสากล
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมไปทั่วโลก โดยในปี 2022 มีการบริโภมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากถึง 121.2 พันล้านจาน ทั่วโลก
ประเทศที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด (ต่อคนต่อปี) ได้แก่ :
1. เวียดนาม: 85 มื้อต่อคนต่อปี
2. เกาหลีใต้: 77 มื้อต่อคนต่อปี
3. ไทย: 55 มื้อต่อคนต่อปี
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด มีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประมาณ 44.8 มื้อต่อคนต่อปี (ข้อมูลปี 2017)
ข้อควรรู้เกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป:
1. การแพร่กระจาย: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช้เวลาเพียง 40 ปี ในการแพร่หลายไปทั่วโลก ตั้งแต่ถูกคิดค้น ในขณะที่บะหมี่ธรรมดาใช้เวลาถึง 1,300 ปี
2. รูปแบบการบริโภค: แต่ละประเทศมีวิธีการบริโภคที่แตกต่างกัน เช่น ในเม็กซิโกนิยมเติมมะนาว และซอสเผ็ด ️ ลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
3. บทบาทในสังคม: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ได้เป็นเพียงอาหารที่สะดวกและรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ️ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากเก็บรักษาได้ง่ายและเตรียมได้เร็ว
ข้อแนะนำในการบริโภค
เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีโซเดียมสูง (ประมาณ 1,400-2,600 มก. ต่อห่อ) ซึ่งอาจเกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน (2,000 มก.) ผู้บริโภคควร:
เติมโปรตีนและผัก เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ และผัก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
อ่านฉลากโภชนาการ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ "ทางเลือกสุขภาพ" ที่มีโซเดียมต่ำกว่า
ลดการบริโภคเครื่องปรุง ที่มีโซเดียมสูงและไม่ควรบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกินวันละ 1 ห่อ
วันบะหมี่สำเร็จรูปสากลจึงไม่เพียงเป็นวันระลึกถึงการคิดค้นอาหารที่เปลี่ยนแปลงวิถีการกินของผู้คนทั่วโลก แต่ยังเป็นโอกาสในการรำลึกถึงความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของโมโมฟุกุ อันโด ที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารโลก
ที่มาและประวัติความเป็นมา
ผู้คิดค้น: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกคิดค้นโดย นายโมโมฟุกุ อันโด (Momofuku Ando) ผู้ก่อตั้งบริษัทนิชชินฟูดส์ การคิดค้นนี้เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ️ โดยอันโดต้องการสร้างอาหารที่ง่ายต่อการเตรียม ราคาถูก และมีรสชาติอร่อย เพื่อแก้ปัญหาความหิวโหยของประชาชน
แนวคิด: อันโดไม่เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นกินขนมปังจากข้าวสาลีที่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา เพราะเขาเชื่อว่าคนญี่ปุ่นควรได้กินอาหารที่คุ้นเคยเช่นบะหมี่หรือราเมน เขาจึงทดลองนำเส้นราเมนที่ผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ ไปทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้น ทำให้เก็บไว้ได้นานและสามารถคืนสภาพเดิมได้โดยการเติมน้ำร้อน
การพัฒนา: หลังจากประสบความสำเร็จกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซอง ในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) อันโดก็พัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย (Cup Noodle) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
ความสำคัญและการยอมรับในระดับสากล
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมไปทั่วโลก โดยในปี 2022 มีการบริโภมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากถึง 121.2 พันล้านจาน ทั่วโลก
ประเทศที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด (ต่อคนต่อปี) ได้แก่ :
1. เวียดนาม: 85 มื้อต่อคนต่อปี
2. เกาหลีใต้: 77 มื้อต่อคนต่อปี
3. ไทย: 55 มื้อต่อคนต่อปี
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด มีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประมาณ 44.8 มื้อต่อคนต่อปี (ข้อมูลปี 2017)
ข้อควรรู้เกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป:
1. การแพร่กระจาย: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช้เวลาเพียง 40 ปี ในการแพร่หลายไปทั่วโลก ตั้งแต่ถูกคิดค้น ในขณะที่บะหมี่ธรรมดาใช้เวลาถึง 1,300 ปี
2. รูปแบบการบริโภค: แต่ละประเทศมีวิธีการบริโภคที่แตกต่างกัน เช่น ในเม็กซิโกนิยมเติมมะนาว และซอสเผ็ด ️ ลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
3. บทบาทในสังคม: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ได้เป็นเพียงอาหารที่สะดวกและรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ️ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากเก็บรักษาได้ง่ายและเตรียมได้เร็ว
ข้อแนะนำในการบริโภค
เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีโซเดียมสูง (ประมาณ 1,400-2,600 มก. ต่อห่อ) ซึ่งอาจเกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน (2,000 มก.) ผู้บริโภคควร:
เติมโปรตีนและผัก เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ และผัก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
อ่านฉลากโภชนาการ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ "ทางเลือกสุขภาพ" ที่มีโซเดียมต่ำกว่า
ลดการบริโภคเครื่องปรุง ที่มีโซเดียมสูงและไม่ควรบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกินวันละ 1 ห่อ
วันบะหมี่สำเร็จรูปสากลจึงไม่เพียงเป็นวันระลึกถึงการคิดค้นอาหารที่เปลี่ยนแปลงวิถีการกินของผู้คนทั่วโลก แต่ยังเป็นโอกาสในการรำลึกถึงความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของโมโมฟุกุ อันโด ที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารโลก