วันที่ 22 กันยายน : world car free day
วันที่ 22 กันยายน ของทุกปี คือ วันปลอดรถโลก (World Car Free Day)
ที่มาและประวัติ
แนวคิดนี้เริ่มต้นขึ้นจาก วิกฤตน้ำมันในปี 1973 เมื่อหลายประเทศในยุโรปประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง รัฐบาลจึงส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทน ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี
ช่วงทศวรรษ 1990 แนวคิด "ไม่มีรถ" ถูกผลักดันอย่างจริงจังในรูปแบบของการรณรงค์ต่างๆ ในยุโรป เริ่มจากบทความอย่าง "A Day Without a Car" ในปี 1995
ปี 2000 เป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ โดย เครือข่าย World Car Free Day (ซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า Carbusters ปัจจุบันคือ World Carfree Network) ได้ริเริ่มและส่งเสริมให้เมืองต่างๆ ทั่วโลกจัดกิจกรรมในวันที่ 22 กันยายน
การขยายตัว กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมและขยายไปมากกว่า 1,500 เมือง ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยในบางเมืองไม่ได้จำกัดอยู่แค่วันเดียว แต่มีการปิดถนนเส้นหลักทั้งหมดในวันอาทิตย์หรือจัดให้มี "เขตปลอดรถ" เป็นประจำ
ความสำคัญ
วันปลอดรถโลกมีความสำคัญหลายประการ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ
1. ลดมลพิษทางอากาศและเสียง การหยุดใช้รถยนต์แม้เพียงวันเดียวช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (เช่น CO2) และก๊าซพิษอื่นๆ (เช่น NOx, SO2) ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและปัญหาสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ รวมทั้งลดมลพิษทางเสียงในเมืองอีกด้วย
2. ส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะให้ประชาชนได้ "ทดลอง" ใช้รูปแบบการเดินทางอื่นๆ นอกเหนือจากรถส่วนตัว เช่น
ระบบขนส่งสาธารณะ (รถไฟฟ้า BTS, MRT, รถเมล์)
การเดิน
การปั่นจักรยาน
การ Carpool (นั่งรถไปกับคนอื่นๆ)
3. สร้างความตระหนักรู้ เป็นการรณรงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึง ผลเสียของการใช้รถยนต์ที่มากเกินไป ทั้งปัญหาการจราจรติดขัด มลพิษ และการconsumptionพลังงาน (เชื้อเพลิงฟอสซิล) ซึ่งมีจำกัด
4. ฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะ ในหลายเมืองจะมีการ ปิดถนนเส้นหลัก ชั่วคราวเพื่อจัดกิจกรรมสำหรับประชาชนแทน เช่น
จัดตลาดนัด
จัดพื้นที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬา
จัดงานศิลปะและการแสดง
ซึ่งช่วยให้คนในชุมชนได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
5. ส่งเสริมสุขภาพ การหันมาเดินหรือปั่นจักรยานแทนการนั่งรถช่วยให้ผู้คนมีกิจกรรมทางกายมากขึ้น ซึ่งดีต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
กิจกรรมในวันปลอดรถโลก
ปิดถนนเส้นหลัก ในเขตใจกลางเมืองเพื่อจัดกิจกรรมสาธารณะ
จัดเส้นทางปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมปั่นกลุ่มใหญ่
ให้บริการขนส่งสาธารณะฟรี หรือในราคาพิเศษ เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้บริการ
การรณรงค์ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยแฮชแท็กเช่น WorldCarFreeDay CarFreeDay
สรุปแล้ว วันปลอดรถโลก (World Car Free Day) ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ "ต่อต้านรถยนต์" แต่มุ่งเพื่อ สร้างทางเลือกและความตระหนัก ว่าหากเราลดการใช้รถลงได้บ้าง และหันมาใช้วิธีการเดินทางอื่นๆ ที่เหมาะสมมากขึ้น จะช่วยให้เมืองน่าอยู่ขึ้น สภาพแวดล้อมดีขึ้น และคุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน