วันที่ 13 ตุลาคม : วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
11 ผู้เข้าชม
วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น วันคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เนื่องจากพระองค์เสด็จสวรรคตในวันดังกล่าว
ความเป็นมาโดยย่อ
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15:52 น. สิริพระชนมพรรษา 88 พรรษา
การกำหนดวัน หลังจากวันสวรรคต เป็นต้นมา วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี จึงถูกกำหนดให้เป็น "วันคล้ายวันสวรรคต" เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี
กิจกรรมในวันนี้
ในวันคล้ายวันสวรรคต พสกนิกรชาวไทยจะแสดงความอาลัยและรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยหลายวิธี เช่น
การร่วมทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศล
การวางพวงมาลาและถวายบังคม ณ ลานพระราชวังดุสิต
การจุดเทียนและกล่าวคำถวายพระพร
การแต่งกายด้วยเสื้อสีดำ หรือเสื้อสีม่วง เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้เป็นวันสำคัญที่คนไทยทุกคนร่วมกันรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็น "พ่อของแผ่นดิน" และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติ
ความเป็นมาโดยย่อ
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15:52 น. สิริพระชนมพรรษา 88 พรรษา
การกำหนดวัน หลังจากวันสวรรคต เป็นต้นมา วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี จึงถูกกำหนดให้เป็น "วันคล้ายวันสวรรคต" เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี
กิจกรรมในวันนี้
ในวันคล้ายวันสวรรคต พสกนิกรชาวไทยจะแสดงความอาลัยและรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยหลายวิธี เช่น
การร่วมทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศล
การวางพวงมาลาและถวายบังคม ณ ลานพระราชวังดุสิต
การจุดเทียนและกล่าวคำถวายพระพร
การแต่งกายด้วยเสื้อสีดำ หรือเสื้อสีม่วง เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้เป็นวันสำคัญที่คนไทยทุกคนร่วมกันรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็น "พ่อของแผ่นดิน" และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติ