วันที่ 13 ตุลาคม : วันภัยพิบัติสากล
23 ผู้เข้าชม
วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ" (International Day for Disaster Risk Reduction - IDDRR) ซึ่งเป็นวันสำคัญที่ถูกกำหนดโดยสหประชาชาติ (UN) เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทั่วโลก
นี่คือที่มาและรายละเอียดของ วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ (13 ตุลาคม) โดยละเอียด:
ที่มาและประวัติ
จุดเริ่มต้น วันนี้มีรากฐานมาจากการที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ประกาศให้ "ทศวรรษสากลเพื่อการลดภัยพิบัติตามธรรมชาติ" (International Decade for Natural Disaster Reduction) ตั้งแต่ปี 1990 - 1999
การกำหนดวัน หลังจากสิ้นสุดทศวรรษดังกล่าว และเห็นถึงความสำคัญที่ต้องดำเนินงานต่อ สหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ" อย่างเป็นทางการ ผ่านมติสมัชชาใหญ่ A/RES/64/200 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009)
จุดประสงค์ วันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Reduction - DRR) มากกว่าการตอบสนองต่อภัยพิบัติเพียงอย่างเดียว โดยเน้นการป้องกัน เตรียมความพร้อม และสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน
วัตถุประสงค์หลัก
1. สร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับนานาชาติ
2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนประชาชนทั่วไป
3. แลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรม เกี่ยวกับวิธีการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติ
4. สนับสนุนการดำเนินการตามกรอบงาน Sendai ซึ่งเป็นกรอบงานระหว่างประเทศที่สำคัญสำหรับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558-2573 (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015-2030)
หัวข้อและแนวทางการรณรงค์ในแต่ละปี
สหประชาชาติจะกำหนดหัวข้อหลัก (Theme) สำหรับวันนี้ในแต่ละปี เพื่อโฟกัสไปที่ประเด็นสำคัญๆ ตัวอย่างหัวข้อในปีที่ผ่านมาได้แก่:
ปี 2024 "ลดความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ สร้างอนาคตที่ยืดหยุ่น" (Focuses on the interconnections between disasters and climate change, and the need for climate-resilient development.)
ปี 2023 "ต่อสู้กับความไม่เสมอภาคสำหรับอนาคตที่ยืดหยุ่น" (Fighting inequality for a resilient future)
ปี 2022 "เพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มเปราะบางเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ" (Target G of the Sendai Framework: Substantially increase the availability of and access to multi-hazard early warning systems and disaster risk information and assessments to people by 2030.)
การดำเนินงานในประเทศไทย
ประเทศไทยโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะหน่วยงานหลัก มักจะจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันนี้เป็นประจำทุกปี เช่น การจัดนิทรรศการให้ความรู้ การฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ การแจกแผ่นพับข้อมูล การให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความพร้อมและรู้วิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
สรุป
ดังนั้น วันที่ 13 ตุลาคม ที่แท้จริงคือ "วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ" (International Day for Disaster Risk Reduction) ไม่ใช่ "วันภัยพิบัติสากล" ซึ่งเป็นวันที่มีเป้าหมายเชิงบวกเพื่อส่งเสริมการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติ อันจะนำไปสู่สังคมที่ปลอดภัยและมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
นี่คือที่มาและรายละเอียดของ วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ (13 ตุลาคม) โดยละเอียด:
ที่มาและประวัติ
จุดเริ่มต้น วันนี้มีรากฐานมาจากการที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ประกาศให้ "ทศวรรษสากลเพื่อการลดภัยพิบัติตามธรรมชาติ" (International Decade for Natural Disaster Reduction) ตั้งแต่ปี 1990 - 1999
การกำหนดวัน หลังจากสิ้นสุดทศวรรษดังกล่าว และเห็นถึงความสำคัญที่ต้องดำเนินงานต่อ สหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ" อย่างเป็นทางการ ผ่านมติสมัชชาใหญ่ A/RES/64/200 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009)
จุดประสงค์ วันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Reduction - DRR) มากกว่าการตอบสนองต่อภัยพิบัติเพียงอย่างเดียว โดยเน้นการป้องกัน เตรียมความพร้อม และสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน
วัตถุประสงค์หลัก
1. สร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับนานาชาติ
2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนประชาชนทั่วไป
3. แลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรม เกี่ยวกับวิธีการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติ
4. สนับสนุนการดำเนินการตามกรอบงาน Sendai ซึ่งเป็นกรอบงานระหว่างประเทศที่สำคัญสำหรับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558-2573 (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015-2030)
หัวข้อและแนวทางการรณรงค์ในแต่ละปี
สหประชาชาติจะกำหนดหัวข้อหลัก (Theme) สำหรับวันนี้ในแต่ละปี เพื่อโฟกัสไปที่ประเด็นสำคัญๆ ตัวอย่างหัวข้อในปีที่ผ่านมาได้แก่:
ปี 2024 "ลดความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ สร้างอนาคตที่ยืดหยุ่น" (Focuses on the interconnections between disasters and climate change, and the need for climate-resilient development.)
ปี 2023 "ต่อสู้กับความไม่เสมอภาคสำหรับอนาคตที่ยืดหยุ่น" (Fighting inequality for a resilient future)
ปี 2022 "เพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มเปราะบางเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ" (Target G of the Sendai Framework: Substantially increase the availability of and access to multi-hazard early warning systems and disaster risk information and assessments to people by 2030.)
การดำเนินงานในประเทศไทย
ประเทศไทยโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะหน่วยงานหลัก มักจะจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันนี้เป็นประจำทุกปี เช่น การจัดนิทรรศการให้ความรู้ การฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ การแจกแผ่นพับข้อมูล การให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความพร้อมและรู้วิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
สรุป
ดังนั้น วันที่ 13 ตุลาคม ที่แท้จริงคือ "วันสากลเพื่อการลดภัยพิบัติ" (International Day for Disaster Risk Reduction) ไม่ใช่ "วันภัยพิบัติสากล" ซึ่งเป็นวันที่มีเป้าหมายเชิงบวกเพื่อส่งเสริมการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติ อันจะนำไปสู่สังคมที่ปลอดภัยและมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น