แชร์

การปลุกเรียกผู้ป่วยหมดสติทำไมต้องตบที่บ่า?

8 ผู้เข้าชม

การปลุกเรียกผู้ป่วยหมดสติทำไมต้องตบที่บ่า?

คำตอบง่ายๆ คือ: เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ช่วยเหลือและผู้ป่วย
อธิบายแบบง่ายๆ: เหตุผลที่ต้องตบที่บ่า
1. ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย
-ตบแรงๆ ที่หน้าหรือหัว อาจทำให้บาดเจ็บได้
-ตบที่หน้าอก อาจทำให้หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นได้ถ้าผู้ป่วยมีโรคหัวใจแฝง
2. ปลอดภัยสำหรับผู้ช่วยเหลือ
-จับหรือเขย่าที่ศีรษะ หากผู้ป่วยดุหรือสับสน อาจถูกกัดหรือทำร้ายได้
-ตบที่บ่า อยู่ห่างจากใบหน้าและปากของผู้ป่วย ลดความเสี่ยง
3. ดูการตอบสนองได้ชัดเจน
-การตบที่บ่าพร้อมเรียกเสียงดัง ทดสอบทั้งการได้ยินและการสัมผัส
-ถ้าผู้ป่วยตอบสนอง (ลืมตา ขยับตัว พูด) แสดงว่ายังมีสติ
4. เป็นมาตรฐานสากล
- ทุกคนทำเหมือนกัน ไม่สับสนในสถานการณ์ฉุกเฉิน
-บ่าเป็นจุดที่หาได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาหาจุดอื่น
สิ่งที่ห้ามทำ
-เขย่าที่ศีรษะหรือคอ อาจทำให้คอเสื่อมหรือบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
-ตบหรือตีที่หน้า อาจทำให้ฟันหลุด กระจกตาบาดเจ็บ
-หยอดน้ำหรือราดน้ำ อาจสำลักน้ำเข้าปอด
สรุปเป็นข้อคิด:
"ตบเบาๆ ที่บ่า เรียกเสียงดัง ปลอดภัยไว้ก่อน"
การตบที่บ่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการประเมินระดับสติของผู้ป่วย โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มเติม และได้ผลเชื่อถือได้
คำตอบเชิงลึกทางการแพทย์
ขอตอบเชิงลึกทางการแพทย์เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องตบหรือเขย่าที่บ่าในการประเมินระดับสติรู้สึกตัว
1. กายวิภาคศาสตร์ประยุกต์ของบริเวณบ่า
1.1 โครงสร้างทางกายวิภาค
-Trapezius muscle: เป็นกล้ามเนื้อใหญ่ที่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกหลากหลาย
-Brachial plexus: อยู่ห่างจากตำแหน่งที่ตบพอประมาณ ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ
-Spinal accessory nerve (CN XI): ควบคุม trapezius muscle
-Cervical spine: อยู่ห่างจากตำแหน่งตบ ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บที่คอ
1.2 Density of Mechanoreceptors
-บริเวณบ่า: มี mechanoreceptors ความหนาแน่นปานกลาง
-เหมาะสมสำหรับ การกระตุ้นที่ไม่รุนแรงเกินไปแต่ได้ผล
2. ชีวกลศาสตร์ของการกระตุ้น
2.1 Force Transmission
text
การตบที่บ่า:
- ส่งแรงกระตุ้นไปยัง axial skeleton โดยตรง
- เกิดการสั่นสะเทือนไปยัง trunk และ head
- ไม่ทำให้เกิดการบิดหมุนของ cervical spine
2.2 Energy Dissipation
-บริเวณบ่า: กระจายแรงได้ดีเนื่องจากมีกล้ามเนื้อหนา
-Compared to face: มี risk of injury ต่ำกว่ามาก
3. ประสาทวิทยาศาสตร์ของการตอบสนอง
3.1 Ascending Reticular Activating System (ARAS)
-การตบที่บ่า: กระตุ้น dorsal column-medial lemniscal pathway
-ส่งสัญญาณไปยัง thalamus และ cerebral cortex
-ทดสอบการทำงานของ ARAS ที่ควบคุมการตื่นตัว
3.2 Multisensory Integration
-การได้ยิน (เรียกชื่อ) และการสัมผัส (ตบ)
-ทดสอบการ integrate sensory inputs ใน cerebral cortex
4. ความปลอดภัยทางระบบประสาท
4.1 Cervical Spine Protection
-Avoidance of rotational forces: ไม่ทำให้คอเคลื่อนผิดธรรมชาติ
-Stability maintenance: รักษา neutral alignment ของ cervical spine
4.2 Risk of Vertebrobasilar Injury
-การเขย่าศีรษะอย่างรุนแรง: เสี่ยงต่อ vertebral artery dissection
-การตบที่บ่า: ไม่ส่งแรงไปที่ vertebral arteries โดยตรง
5. การตอบสนองทางคลินิก
5.1 Localizing Response
-Normal response: ผู้ป่วยอาจยกแขนขึ้นหรือพยายามหัน頭
-Abnormal response: decorticate or decerebrate posturing
5.2 Grading Response ตาม Glasgow Coma Scale
-Eye opening: ประเมินจากการตอบสนองต่อการกระตุ้น
-Verbal response: จากการเรียกชื่อ
-Motor response: จากการตบที่บ่า
6. หลักฐานจากการศึกษา
6.1 Biomechanical Studies
-แสดงว่าแรงประมาณ 50-100 Newtons ที่บริเวณบ่า
-เพียงพอสำหรับกระตุ้นผู้ป่วย
-ไม่ทำให้เกิด tissue damage
6.2 Neurological Studies
-MEPs (Motor Evoked Potentials):
-การตบที่บ่ากระตุ้น corticospinal tract ได้ adequately
-ไม่รบกวนการแปลผล neurological examination
7. การพิจารณาในผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ
7.1 Trauma Patients
-หากสงสัย cervical spine injury: ควรตบเบาๆ และประเมิน response อย่างระมัดระวัง
- Avoid log-rolling ระหว่างการกระตุ้น
7.2 Elderly Patients
-กระดูกเปราะบาง: ตบเบากว่าปกติ
-อาจตอบสนองช้า: รอเวลาพอเพียงสำหรับการตอบสนอง
8. Alternative Methods ที่ไม่แนะนำ
8.1 Sternal Rub
ข้อเสีย:
-อาจทำให้กระดูกซี่โครงหัก
-ก่อให้เกิด bruising ที่เห็นได้ชัด
-ไม่สบายใจสำหรับญาติที่เห็น
8.2 Nail Bed Pressure
ข้อเสีย:
- อาจทำให้เนื้อเยื่อใต้เล็บเสียหาย
- ได้ response ที่จำกัดเฉพาะ limb นั้นๆ
8.3 Supraorbital Pressure
ข้อเสีย:
- เสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ดวงตา
- อาจกระตุ้น trigeminal-cardiac reflex
9. ปัจจัยทางกฎหมายและจริยธรรม
9.1 Standard of Care
-การตบที่บ่า เป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าเป็นวิธีการกระตุ้นที่เหมาะสม
-Documentation ควรบันทึก response ต่อการกระตุ้น
9.2 Minimizing Harm

-Principle of non-maleficence: ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มเติม

-Proportionality: แรงที่ใช้สมเหตุสมผลกับวัตถุประสงค์
สรุปทางการแพทย์
การตบที่บ่าได้รับการยอมรับเพราะ:
1. Anatomic Safety: อยู่ห่างจากอวัยวะสำคัญและเส้นเลือดใหญ่
2. Neurological Efficacy: กระตุ้น sensory pathways ได้ adequately
3. Biomechanical Advantage: ส่งแรงได้มีประสิทธิภาพโดยไม่ก่ออันตราย
4. Clinical Utility: ประเมินระดับสติรู้สึกตัวได้อย่างน่าเชื่อถือ
5. Standardization: เป็นวิธีมาตรฐานที่ทำซ้ำได้ผลเหมือนกัน
วิธีการนี้แสดงถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลักการทางประสาทวิทยาศาสตร์และชีวกลศาสตร์ เพื่อการประเมินผู้ป่วยที่ทั้งมีประสิทธิภาพและปลอดภัย



บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy