แชร์

คำถาม : สะโพกหลุด อันตรายไหม ?

 

คำถาม : สะโพกหลุด อันตรายไหม ?
สะโพกหลุด (Hip Dislocation) เป็นภาวะที่หัวกระดูกสะโพกเคลื่อนออกจากเบ้ากระดูกเชิงกราน ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ และอาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที

อันตรายของสะโพกหลุด
1. ความเจ็บปวดรุนแรง ผู้ป่วยจะปวดมากและขยับขาไม่ได้
2. เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นเลือดและเส้นประสาท โดยเฉพาะเส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve) ซึ่งอาจทำให้ขาอ่อนแรงหรือชาได้
3. เนื้อเยื่อรอบข้อถูกทำลาย เช่น เอ็น กล้ามเนื้อ หรือหลอดเลือด
4. เสี่ยงต่อภาวะข้อสะโพกเสื่อมเร็ว หากรักษาล่าช้า
5. อาจเกิดการหลุดซ้ำ (Recurrent Dislocation) ในผู้ที่มีความยืดหยุ่นของข้อมาก

สาเหตุที่พบบ่อย
อุบัติเหตุรุนแรง เช่น รถชน ตกจากที่สูง การเล่นกีฬาที่มีการปะทะ ความผิดปกติของข้อสะโพกแต่กำเนิด เช่น Hip Dysplasia

การรักษา
ต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการลดข้อ (Relocation) โดยแพทย์เฉพาะทาง
อาจต้องใช้การผ่าตัดในกรณีที่มีการบาดเจ็บรุนแรง
พักฟื้นและทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของข้อ

สรุป
สะโพกหลุดเป็นภาวะอันตรายและต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ หากสงสัยว่ามีอาการสะโพกหลุด เช่น ปวดรุนแรง ขาเคลื่อนไหวไม่ได้ ข้อผิดรูป ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
รายละเอียดเชิงลึกทางการแพทย์เกี่ยวกับภาวะสะโพกหลุด (Hip Dislocation)
1. นิยามและประเภทของสะโพกหลุด
สะโพกหลุดเกิดขึ้นเมื่อหัวกระดูก Femur (Femoral Head) เคลื่อนออกจากเบ้ากระดูกเชิงกราน (Acetabulum) แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักตามทิศทางการเคลื่อน
1.1 Posterior Dislocation (หลุดด้านหลัง)
พบมากที่สุด ประมาณ 90% ของเคส
หัวกระดูก Femur เคลื่อนไปด้านหลัง Acetabulum
มักเกิดจากแรงกระแทกที่ขาเหยียดและหุบเข้า (Flexed, Adducted, Internally Rotated Hip) เช่น อุบัติเหตุรถชน (Dashboard Injury)
อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นประสาท Sciatic Nerve บาดเจ็บ
1.2 Anterior Dislocation (หลุดด้านหน้า)
พบน้อยกว่าประมาณ 10%
หัวกระดูก Femur เคลื่อนไปด้านหน้า Acetabulum
มักเกิดจากแรงกระแทกที่ขาเหยียดและกางออก (Extended, Abducted, Externally Rotated Hip)
อาจกดทับเส้นเลือด Femoral Artery/Vein หรือเส้นประสาท Femoral Nerve
1.3 Central Dislocation (พบน้อยมาก)
เกิดจากแรงกระแทกด้านข้างทำให้หัว Femur ทะลุเข้าไปในกระดูกเชิงกราน
มักสัมพันธ์กับ Acetabular Fracture

2. สาเหตุและกลไกการบาดเจ็บ
2.1 สาเหตุหลัก
อุบัติเหตุจราจร (โดยเฉพาะ Dashboard Injury เข่ากระแทกแผงคอนโซล)
ตกจากที่สูง
การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา (เช่น รักบี้, ยิมนาสติก)
ความผิดปกติแต่กำเนิด (Developmental Dysplasia of the Hip DDH)
หลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก (Total Hip Replacement)
2.2 กลไกการบาดเจ็บ
Posterior Dislocation: แรงกระทำที่ข้อสะโพกอยู่ในท่า Flexion Adduction Internal Rotation
Anterior Dislocation: แรงกระทำที่ข้อสะโพกอยู่ในท่า Extension Abduction External Rotation

3. อาการและอาการแสดง
3.1 อาการทั่วไป
ปวดสะโพกรุนแรง
ขยับขาไม่ได้
ขาอยู่ในท่าผิดปกติ
Posterior Dislocation: ขาหุบ หมุนเข้า เหยียดไม่สุด
Anterior Dislocation: ขากาง หมุนออก เหยียดตรงหรืองอเล็กน้อย
3.2 การตรวจร่างกาย
ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน (Leg Length Discrepancy)
Positive Allis Sign (ใช้ตรวจในเด็ก)
ตรวจระบบประสาทและหลอดเลือด
Posterior Dislocation: ตรวจการทำงานของ Sciatic Nerve (Tibial & Common Peroneal Nerve)
Anterior Dislocation: ตรวจ Pulse ที่ Dorsalis Pedis และ Posterior Tibial Artery เพื่อประเมินการกดทับของ Femoral Nerve/Artery

4. การตรวจทางรังสีวิทยา
4.1 X-ray
Standard Views: AP Pelvis Lateral Hip
Posterior Dislocation: Femoral Head อยู่เหนือและหลัง Acetabulum
Anterior Dislocation: Femoral Head อยู่ใต้หรือหน้าข้อต่อ
อาจพบกระดูกหักร่วม เช่น Acetabular Fracture, Femoral Head Fracture
4.2 CT Scan
ประเมินกระดูกหักร่วมและการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน
ใช้ก่อนผ่าตัดหากสงสัยมีเศษกระดูกในข้อ (Intra-articular Loose Bodies)
4.3 MRI
ประเมินการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน เช่น Labral Tear, Ligament Damage

5. การรักษา
5.1 การลดข้อ (Closed Reduction)
ต้องทำโดยเร็วที่สุด ภายใน 6-12 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยง Avascular Necrosis
Posterior Dislocation:
Allis Maneuver: ผู้ป่วยนอนหงาย แพทย์ดึงขาในท่า Flexion Adduction Internal Rotation
Stimsons Maneuver: ผู้ป่วยนอนคว่ำ แขวนขาลงแล้วใช้แรงโน้มถ่วงช่วย
Anterior Dislocation:
Reverse Bigelow Maneuver: ดึงขาในท่า Extension Abduction External Rotation
หลังลดข้อควรทำ X-ray หรือ CT Scan เพื่อยืนยันและตรวจหาภาวะแทรกซ้อน
5.2 การผ่าตัด (Open Reduction)
ใช้เมื่อ
ลดข้อแบบปิดไม่ได้
มีกระดูกหักร่วม
มี Loose Bodies ในข้อ
5.3 การรักษาภาวะแทรกซ้อน
Avascular Necrosis (AVN) of Femoral Head: อาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อ
Sciatic Nerve Injury: พบใน 10-20% ของ Posterior Dislocation อาจต้องทำ Nerve Decompression
Post-traumatic Arthritis: เกิดจากความเสียหายของกระดูกอ่อนข้อต่อ

6. การพยากรณ์โรค
หากรักษาทันท่วงที โอกาสหายดีสูง
ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์แย่
ลดข้อล่าช้าเกิน 12 ชั่วโมง
มีกระดูกหักร่วม
เส้นประสาทบาดเจ็บถาวร

สรุป
สะโพกหลุดเป็นภาวะฉุกเฉินทางออร์โธปิดิกส์ ต้องรักษาเร่งด่วนเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง การตรวจด้วย X-ray, CT หรือ MRI ช่วยวางแผนการรักษาได้เหมาะสม ทั้งการลดข้อและการผ่าตัด หลังการรักษาต้องฟื้นฟูและติดตามผลเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy