วิธีการเลือกเส้นเลือดที่มือ สำหรับเพื่อให้สารน้ำกับเจาะเลือดต่างกันอย่างไร ?
1 ผู้เข้าชม
วิธีการเลือกเส้นเลือดที่มือ สำหรับ เพื่อให้สารน้ำ กับ เจาะเลือดต่างกันยังไง ?
การเลือกเส้นเลือดที่มือสำหรับ "ให้สารน้ำ" ( intravenous infusion) กับ "เจาะเลือด" (venipuncture) มีหลักการและจุดเน้นที่แตกต่างกันแม้จะเป็นเส้นเลือดบริเวณเดียวกันก็ตาม
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับแต่ละกรณี
1. การเลือกเส้นเลือดสำหรับ ให้สารน้ำ (IV Cannulation)
เป้าหมายหลักคือ การรักษาเส้นทางให้สารน้ำให้อยู่ได้นานและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกเส้นเลือดจึงเน้นที่
ขนาดใหญ่และตรง: เส้นเลือดที่ใหญ่จะรับแรงดันจากการไหลของสารน้ำได้ดี ลดโอกาสบวมช้ำ (Infiltration/Phlebitis)
ตื้นและจับได้ชัด: ทำให้มองเห็นและคลำได้ง่าย ลดการเจาะผิดพลาด
อยู่บนพื้นที่มั่นคง: เลือกบริเวณที่ไม่มีกระดูกนูนหรือเอ็นมากเกินไป เพื่อให้ติดผ้าพลาสเตอร์ยึดได้มั่นคง
หลีกเลี่ยงข้อต่อ: สำคัญมาก ไม่ควรเลือกเส้นเลือดที่ข้อมือหรือข้อนิ้ว เพราะทุกครั้งที่ผู้ป่วยขยับข้อมือหรือนิ้ว อาจทำให้ปลายเข็มที่อยู่ในเส้นเลือดเสียดสีกับผนังเส้นเลือดจนแตกหรืออุดตัน
เริ่มจากปลายมือไปหาลำตัว: ควรเริ่มจากเส้นเลือดที่หลังมือก่อน หากไม่พอหรือใช้ไม่ได้ค่อยเลื่อนขึ้นมาที่แขนด้านหน้า (เช่น เจาะที่มือซ้ายไม่ได้ ก็ไปเจาะที่แขนซ้ายด้านบนขึ้นมา) เหตุผล คือ หากเจาะเส้นบนแขนแล้วเกิดการอักเสบหรือสารน้ำรั่ว เราจะเสียเส้นเลือดใหญ่ทั้งเส้นที่อยู่ก่อนหน้า และไม่สามารถเจาะที่มือด้านล่างต่อได้ เพราะสารน้ำจะรั่วลงมา
2. การเลือกเส้นเลือดสำหรับ เจาะเลือด (Venipuncture)
เป้าหมายหลักคือ การได้ตัวอย่างเลือดที่เพียงพอและมีคุณภาพสำหรับการตรวจในห้องปฏิบัติการ การเลือกเส้นเลือดจึงเน้นที่:
ปริมาณเลือดที่เพียงพอ: บริเวณ ข้อศอก (Antecubital Fossa) เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเพราะมีเส้นเลือดใหญ่ 3 เส้นหลัก คือ Median Cubital Vein, Cephalic Vein, และ Basilic Vein ซึ่งให้ปริมาณเลือดได้ดีและสม่ำเสมอ
การจับตรึงได้ดี: เส้นเลือดบริเวณข้อศอกมักตรึงกับเนื้อเยื่อรอบข้างดีกว่า ไม่เลื่อนไปมาขณะเจาะ ทำให้เจาะได้ง่ายและเจ็บน้อยกว่า
เจาะครั้งเดียวจบ: เนื่องจากเป็นการทำหัตถการที่รวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลื่อนไหวของข้อต่อในระยะยาวเหมือนการให้สารน้ำ
คุณภาพของตัวอย่างเลือด: การเลือกเส้นเลือดที่ใหญ่และเหมาะสมช่วยลดโอกาสเกิด Hemolysis (เม็ดเลือดแดงแตก) ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าการตรวจได้
สรุปแบบง่ายๆ
ให้สารน้ำ: คิดถึง ความทนทานและความมั่นคงในระยะยาว เน้นเส้นที่ ใหญ่ ตรง ตื้น และไม่อยู่ใกล้ข้อต่อ (เริ่มจากหลังมือก่อน)
เจาะเลือด: คิดถึง การได้เลือดที่ง่ายและเร็วในครั้งเดียว เน้นเส้นที่ ใหญ่และตรึงได้ดี ที่บริเวณ ข้อศอกเป็นอันดับหนึ่ง
เข้าใจแล้วครับ ไม่ใช้ตาราง ลองอธิบายแบบเล่าเรื่องให้เห็นภาพนะครับ
การให้สารน้ำ vs การเจาะเลือด: เหมือนการ "ตั้งค่าย" กับ "ออกตีเดียว"
การให้สารน้ำ เหมือนเราต้องการ "ตั้งค่ายทหาร" ที่จะอยู่กันหลายวัน
เวลาตั้งค่าย เราต้องการ:
ที่ตั้งมั่นคง (เส้นเลือดใหญ่พอ) เพราะถ้าค่ายเล็กไป ทหารมากๆ เข้ามาไม่ไหว
อยู่ห่างจากถนนหลัก (หลีกเลี่ยงข้อต่อ) เพราะถ้าวางค่ายติดถนน รถวิ่งไปมาทั้งวัน ค่ายก็เสี่ยงพัง
เริ่มตั้งจากชายแดนก่อน (เริ่มจากมือก่อน) ถ้าค่ายหน้าด่านพัง เรายังถอยไปตั้งค่ายหลังได้ แต่ถ้าตั้งค่ายใหญ่ในเมืองก่อนแล้วพัง หน้าด่านก็ใช้ไม่ได้แล้ว
นั่นคือเหตุผลที่เวลาให้สารน้ำ เรามองหาเส้นเลือดที่ ใหญ่ ตรง และไม่อยู่ใกล้ข้อมือ ข้อนิ้ว เพราะเราต้องการใช้เส้นนี้เป็นทางผ่านยาวๆ นานๆ ถ้าเส้นเล็กไป สารน้ำไหลไม่สะดวก หรืออยู่ใกล้ข้อต่อ พอคนไข้ขยับมือ เข็มอาจทิ่มแทงผนังเส้นเลือดจนแตกได้
การเจาะเลือด กลับกัน เหมือนเราเป็น "หน่วยคอมมานโด" ออกตีเดียวนัดเดียว
เวลาออกปฏิบัติการ:
โจมตีฐานใหญ่ที่สุดเลย (เจาะที่ข้อศอก) เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาให้มากที่สุดในครั้งเดียว
ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ตั้ง เพราะตีเสร็จก็ถอนตัวแล้ว ไม่ต้องอยู่รักษาค่าย
ได้ของมาเร็วและมาก คือได้เลือดปริมาณ suficiente ในเวลาอันสั้น
นั่นคือเหตุผลที่เวลาเจาะเลือด เราเลือกเส้นเลือด ใหญ่ที่สุดที่จับได้ ซึ่งมักอยู่ที่ข้อศอก เพราะเราต้องการเลือดให้ได้ปริมาณมากพอสำหรับการตรวจหลายอย่าง โดยเจาะแค่ครั้งเดียว และไม่ต้องกังวลว่าข้อศอกจะขยับเพราะเสร็จงานเร็วมาก
คิดอีกแบบ: การซื้อของสองแบบ
การให้สารน้ำ เหมือนเราติดตั้ง "สายส่งน้ำมัน" ต้องเลือกท่อที่แข็งแรง วางในตำแหน่งที่ปลอดภัย ใช้ได้ยาวนาน
การเจาะเลือด เหมือนเราไป "เติมน้ำมันครั้งเดียว" ที่ปั๊ม เราเลือกปั๊มที่จ่ายเร็วที่สุด เติมให้เต็มถังแล้วก็ไป
ทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับ "ของเหลว" และ "ท่อ" เหมือนกัน แต่เป้าหมายและระยะเวลาต่างกัน จึงเลือกใช้ท่อคนละแบบครับ
การเลือกเส้นเลือดที่มือสำหรับ "ให้สารน้ำ" ( intravenous infusion) กับ "เจาะเลือด" (venipuncture) มีหลักการและจุดเน้นที่แตกต่างกันแม้จะเป็นเส้นเลือดบริเวณเดียวกันก็ตาม
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับแต่ละกรณี
1. การเลือกเส้นเลือดสำหรับ ให้สารน้ำ (IV Cannulation)
เป้าหมายหลักคือ การรักษาเส้นทางให้สารน้ำให้อยู่ได้นานและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกเส้นเลือดจึงเน้นที่
ขนาดใหญ่และตรง: เส้นเลือดที่ใหญ่จะรับแรงดันจากการไหลของสารน้ำได้ดี ลดโอกาสบวมช้ำ (Infiltration/Phlebitis)
ตื้นและจับได้ชัด: ทำให้มองเห็นและคลำได้ง่าย ลดการเจาะผิดพลาด
อยู่บนพื้นที่มั่นคง: เลือกบริเวณที่ไม่มีกระดูกนูนหรือเอ็นมากเกินไป เพื่อให้ติดผ้าพลาสเตอร์ยึดได้มั่นคง
หลีกเลี่ยงข้อต่อ: สำคัญมาก ไม่ควรเลือกเส้นเลือดที่ข้อมือหรือข้อนิ้ว เพราะทุกครั้งที่ผู้ป่วยขยับข้อมือหรือนิ้ว อาจทำให้ปลายเข็มที่อยู่ในเส้นเลือดเสียดสีกับผนังเส้นเลือดจนแตกหรืออุดตัน
เริ่มจากปลายมือไปหาลำตัว: ควรเริ่มจากเส้นเลือดที่หลังมือก่อน หากไม่พอหรือใช้ไม่ได้ค่อยเลื่อนขึ้นมาที่แขนด้านหน้า (เช่น เจาะที่มือซ้ายไม่ได้ ก็ไปเจาะที่แขนซ้ายด้านบนขึ้นมา) เหตุผล คือ หากเจาะเส้นบนแขนแล้วเกิดการอักเสบหรือสารน้ำรั่ว เราจะเสียเส้นเลือดใหญ่ทั้งเส้นที่อยู่ก่อนหน้า และไม่สามารถเจาะที่มือด้านล่างต่อได้ เพราะสารน้ำจะรั่วลงมา
2. การเลือกเส้นเลือดสำหรับ เจาะเลือด (Venipuncture)
เป้าหมายหลักคือ การได้ตัวอย่างเลือดที่เพียงพอและมีคุณภาพสำหรับการตรวจในห้องปฏิบัติการ การเลือกเส้นเลือดจึงเน้นที่:
ปริมาณเลือดที่เพียงพอ: บริเวณ ข้อศอก (Antecubital Fossa) เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเพราะมีเส้นเลือดใหญ่ 3 เส้นหลัก คือ Median Cubital Vein, Cephalic Vein, และ Basilic Vein ซึ่งให้ปริมาณเลือดได้ดีและสม่ำเสมอ
การจับตรึงได้ดี: เส้นเลือดบริเวณข้อศอกมักตรึงกับเนื้อเยื่อรอบข้างดีกว่า ไม่เลื่อนไปมาขณะเจาะ ทำให้เจาะได้ง่ายและเจ็บน้อยกว่า
เจาะครั้งเดียวจบ: เนื่องจากเป็นการทำหัตถการที่รวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลื่อนไหวของข้อต่อในระยะยาวเหมือนการให้สารน้ำ
คุณภาพของตัวอย่างเลือด: การเลือกเส้นเลือดที่ใหญ่และเหมาะสมช่วยลดโอกาสเกิด Hemolysis (เม็ดเลือดแดงแตก) ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าการตรวจได้
สรุปแบบง่ายๆ
ให้สารน้ำ: คิดถึง ความทนทานและความมั่นคงในระยะยาว เน้นเส้นที่ ใหญ่ ตรง ตื้น และไม่อยู่ใกล้ข้อต่อ (เริ่มจากหลังมือก่อน)
เจาะเลือด: คิดถึง การได้เลือดที่ง่ายและเร็วในครั้งเดียว เน้นเส้นที่ ใหญ่และตรึงได้ดี ที่บริเวณ ข้อศอกเป็นอันดับหนึ่ง
เข้าใจแล้วครับ ไม่ใช้ตาราง ลองอธิบายแบบเล่าเรื่องให้เห็นภาพนะครับ
การให้สารน้ำ vs การเจาะเลือด: เหมือนการ "ตั้งค่าย" กับ "ออกตีเดียว"
การให้สารน้ำ เหมือนเราต้องการ "ตั้งค่ายทหาร" ที่จะอยู่กันหลายวัน
เวลาตั้งค่าย เราต้องการ:
ที่ตั้งมั่นคง (เส้นเลือดใหญ่พอ) เพราะถ้าค่ายเล็กไป ทหารมากๆ เข้ามาไม่ไหว
อยู่ห่างจากถนนหลัก (หลีกเลี่ยงข้อต่อ) เพราะถ้าวางค่ายติดถนน รถวิ่งไปมาทั้งวัน ค่ายก็เสี่ยงพัง
เริ่มตั้งจากชายแดนก่อน (เริ่มจากมือก่อน) ถ้าค่ายหน้าด่านพัง เรายังถอยไปตั้งค่ายหลังได้ แต่ถ้าตั้งค่ายใหญ่ในเมืองก่อนแล้วพัง หน้าด่านก็ใช้ไม่ได้แล้ว
นั่นคือเหตุผลที่เวลาให้สารน้ำ เรามองหาเส้นเลือดที่ ใหญ่ ตรง และไม่อยู่ใกล้ข้อมือ ข้อนิ้ว เพราะเราต้องการใช้เส้นนี้เป็นทางผ่านยาวๆ นานๆ ถ้าเส้นเล็กไป สารน้ำไหลไม่สะดวก หรืออยู่ใกล้ข้อต่อ พอคนไข้ขยับมือ เข็มอาจทิ่มแทงผนังเส้นเลือดจนแตกได้
การเจาะเลือด กลับกัน เหมือนเราเป็น "หน่วยคอมมานโด" ออกตีเดียวนัดเดียว
เวลาออกปฏิบัติการ:
โจมตีฐานใหญ่ที่สุดเลย (เจาะที่ข้อศอก) เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาให้มากที่สุดในครั้งเดียว
ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ตั้ง เพราะตีเสร็จก็ถอนตัวแล้ว ไม่ต้องอยู่รักษาค่าย
ได้ของมาเร็วและมาก คือได้เลือดปริมาณ suficiente ในเวลาอันสั้น
นั่นคือเหตุผลที่เวลาเจาะเลือด เราเลือกเส้นเลือด ใหญ่ที่สุดที่จับได้ ซึ่งมักอยู่ที่ข้อศอก เพราะเราต้องการเลือดให้ได้ปริมาณมากพอสำหรับการตรวจหลายอย่าง โดยเจาะแค่ครั้งเดียว และไม่ต้องกังวลว่าข้อศอกจะขยับเพราะเสร็จงานเร็วมาก
คิดอีกแบบ: การซื้อของสองแบบ
การให้สารน้ำ เหมือนเราติดตั้ง "สายส่งน้ำมัน" ต้องเลือกท่อที่แข็งแรง วางในตำแหน่งที่ปลอดภัย ใช้ได้ยาวนาน
การเจาะเลือด เหมือนเราไป "เติมน้ำมันครั้งเดียว" ที่ปั๊ม เราเลือกปั๊มที่จ่ายเร็วที่สุด เติมให้เต็มถังแล้วก็ไป
ทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับ "ของเหลว" และ "ท่อ" เหมือนกัน แต่เป้าหมายและระยะเวลาต่างกัน จึงเลือกใช้ท่อคนละแบบครับ