การให้สารน้ำเลือกเส้นเลือดอย่างไร ?
3 ผู้เข้าชม
การให้สารน้ำ เลือกเส้นเลือดอย่างไร
การเลือกเส้นเลือดสำหรับให้สารน้ำ ( intravenous fluid) เป็นขั้นตอนสำคัญในการพยาบาล มาดูรายละเอียดกันเลย
หลักการทั่วไปในการเลือกเส้นเลือด
หลักใหญ่ๆ คือการเลือก เส้นเลือดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ตามลำดับความสำคัญ
1. สภาพของผู้ป่วย (สำคัญที่สุด)
2. ประเภทและความเร่งด่วนของสารน้ำ/ยาที่จะให้
3. ลักษณะของเส้นเลือด
4. ความถนัดของบุคลากร
ขั้นตอนและวิธีการเลือกเส้นเลือดโดยละเอียด
1. ตรวจสอบคำสั่งทางการแพทย์และประเมินผู้ป่วย
อ่านคำสั่งแพทย์: ดูว่าสั่งให้ให้สารน้ำประเภทใด (เช่น Normal Saline, Dextrose) ปริมาณเท่าไหร่ เร็วแค่ไหน
ประเมินสภาพผู้ป่วย:
ภาวะเร่งด่วน: หากเป็นกรณีฉุกเฉิน (เช่น ช็อก เสียเลือดมาก) จำเป็นต้องหาเส้นเลือดใหญ่ๆ ที่ให้สารน้ำได้เร็ว เช่น เส้นเลือดที่แขนหรือศูนย์การให้สารน้ำ (หากบุคลากรมีความชำนาญ)
โรคประจำตัว: ผู้ป่วยโรคไตวาย เบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงการเจาะที่แขนข้างที่ทำการฟอกเลือดหรือผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองออก
กิจกรรมของผู้ป่วย: ถ้าผู้ป่วยต้องใช้มือข้างนั้นทำกิจกรรม (เช่น เขียนหนังสือ) อาจเลือกเจาะที่ข้างที่ไม่ถนัด
2. เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม (เรียงจากแนะนำไปหาที่ไม่แนะนำ)
บริเวณปลายแขน (Forearm): เป็นตำแหน่ง ที่ดีที่สุด
เหตุผล: เส้นเลือดตรงและใหญ่พอสมควร, อยู่บนพื้นเรียบทำให้ติดเทปง่าย, ผู้ป่วยสามารถขยับมือและข้อมือได้โดยไม่กระทบกับเส้นเลือด, ลดโอกาสที่เข็มจะทิ่มผนังเส้นเลือด (infiltration)
เช่น เส้น Cephalic Vein, Basilic Vein
บริเวณหลังมือ (Dorsum of Hand):
เหตุผล: หาเส้นได้ง่าย แต่มีข้อเสียคือเจ็บกว่าบริเวณแขน และผู้ป่วยอาจรู้สึก不便เมื่อขยับมือ
เหมาะสำหรับ: การให้สารน้ำที่ไม่ค่อยระคายเคืองต่อเส้นเลือด และไม่ต้องให้เป็นเวลานานหลายวัน
บริเวณรอยพับแขน (Antecubital Fossa เช่น เส้น Cephalic, Basilic, Median cubital vein):
เหตุผล: เป็นเส้นเลือดที่ใหญ่และเห็นชัดเจน
เหมาะสำหรับ: กรณีฉุกเฉิน ที่ต้องให้สารน้ำเร็วๆ, การเจาะเพื่อเก็บเลือด, หรือการให้สารน้ำที่หนาแน่น (เช่น สารอาหารทางเส้นเลือด)
ข้อเสีย: อยู่ตรงข้อพับ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเหยียดแขนได้เต็มที่ อาจทำให้เข็มหลุดหรือสารน้ำซึมออกนอกเส้นได้ง่ายหากไม่ดามข้อพับให้ตรง
บริเวณอื่นๆ: เช่น ข้อเท้า, เท้า มักเป็น ตัวเลือกสุดท้าย
เหตุผล: เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (thrombophlebitis) สูง โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
พิจารณาใช้เมื่อ: ไม่สามารถหาเส้นเลือดที่แขนและมือได้แล้ว หรือในผู้ป่วยเด็กเล็ก
3. พิจารณาขนาดของเส้นเลือดและเข็ม (Gauge)
สารน้ำทั่วไป/ให้ยาปกติ: ใช้เข็มขนาด 22 G (สีฟ้า) หรือ 20 G (ชมพู)
กรณีฉุกเฉินที่ต้องให้สารน้ำปริมาณมากเร็วๆ: ใช้เข็มขนาดใหญ่ เช่น 18 G (เขียว) หรือใหญ่กว่า
ให้เลือด (Blood transfusion): ควรใช้เข็มขนาด 20 G (ชมพู) ขึ้นไป เพื่อไม่ให้เม็ดเลือดแตก
ผู้ป่วยเด็กหรือเส้นเลือดเล็ก: อาจต้องใช้เข็มขนาด 24 G (เหลือง)
หลักง่ายๆ: เลือกขนาดเข็มที่ใหญ่ที่สุดที่เหมาะสมกับขนาดเส้นเลือดของผู้ป่วย เพื่อให้สารน้ำไหลได้ดีและลดการระคายเคือง
4. ตรวจสอบคุณภาพของเส้นเลือด
เลือกเส้นเลือดที่มีลักษณะดังนี้
ตรง และ นุ่ม เมื่อลูบเบาๆ
มีความยืดหยุ่น (ไม่แข็งตึง)
ไม่บิดเป็นเกลียว
ควรหลีกเลี่ยง เส้นเลือดที่:
อยู่ใกล้ข้อพับ
บิดเป็นเกลียว แข็ง
บริเวณที่เคยถูกเจาะบ่อยๆ หรือมีรอยฟกช้ำ
บริเวณข้างเคียงมีอาการบวม แดง อักเสบ
สรุปเป็นขั้นตอนง่ายๆ
1. ดูคำสั่งและประเมินผู้ป่วย: รู้ว่าต้องให้อะไร เร็วแค่ไหน ผู้ป่วยเป็นอะไรบ้าง
2. เลือกข้างและตำแหน่ง: เริ่มหาจาก ปลายแขน ก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยไปที่ หลังมือ ส่วนรอยพับแขนไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
3. เลือกขนาดเข็มให้เหมาะสม: กับทั้งสภาพผู้ป่วยและประเภทของสารน้ำ
4. เลือกเส้นเลือดที่ดี: ตรง นุ่ม ยืดหยุ่น
5. ใช้ Tourniquet (สายรัด) ให้ถูกต้อง: รัดให้แน่นพอสมควรและรัด above the site (เหนือจุดที่ต้องการเจาะ) 1-2 นิ้ว
ข้อควรระวังพิเศษ
ในผู้สูงอายุ: ผิวบาง เส้นเลือดเปราะ แตกง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรเลือกเส้นเลือดที่ตื้นและดามให้ดี
ในเด็ก: มักใช้เส้นเลือดที่หลังมือ ข้อเท้า หรือศีรษะ (ในเด็กเล็กมาก) ซึ่งต้องใช้ความชำนาญ
สำคัญ: ทักษะนี้ต้องอาศัยการฝึกฝน หากเป็นผู้เริ่มต้น ควรฝึกบนหุ่นจำลองและมีผู้มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำก่อนทำในผู้ป่วยจริง
เป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมและสำคัญมากครับ! การหลีกเลี่ยง valve ของหลอดเลือดดำ (Venous valve) เป็นเทคนิคขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จและลดความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยได้อย่างมาก
Valve ของหลอดเลือดดำคืออะไรและอยู่ที่ไหน?
หน้าที่: มันคือแผ่นพับเล็กๆ ภายในเส้นเลือดดำที่ทำหน้าที่ ป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ คล้ายประตูเปิด-ปิดทางเดียว
ตำแหน่ง: มักอยู่บริเวณ จุดที่เส้นเลือดแยก分支 (Bifurcation) หรือบริเวณที่เส้นเลือดเชื่อมต่อกัน ( anastomosis) ซึ่งเป็นจุดที่แรงดันเลือดเปลี่ยนแปลง
5 วิธีหลัก ในการหลีกเลี่ยง Valve อย่างได้ผล
1. การสังเกตด้วยตา (Visual Inspection) - วิธีพื้นฐานที่สุด
มองหาจุด "บวม" หรือ "โป่ง" เป็นช่วงๆ: เส้นเลือดที่มี valve มักจะดูเป็นปล้องๆ คล้ายเส้นไส้กรอก เพราะ valve จะทำให้เลือดค้างและป่องออกมาด้านหน้าของ valve
ตัวอย่าง: คุณอาจเห็นเส้นเลือดที่ตรงๆ ดี แต่มีบางจุดที่ป่องออกมาเป็นตุ้มเล็กๆ นั่นแหละคือตำแหน่งของ valve
2. การคลำด้วยนิ้ว (Palpation) - วิธีที่สำคัญและแม่นยำที่สุด
นี่คือหัวใจของเรื่องนี้เลย เมื่อคุณรัด tourniquet และเห็นเส้นเลือดแล้ว ให้ใช้ ปลายนิ้วชี้ (ไม่ใช้เล็บ) ลูบเบาๆ ไปตามความยาวของเส้นเลือด
ความรู้สึกเมื่อเจอ Valve: คุณจะรู้สึกถึง ก้อนนิ่มๆ เล็กๆ (soft nodule) หรือจุดที่มีความต้านทานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยภายในเส้นเลือด
เปรียบเทียบ: รู้สึกคล้ายกับ "เม็ดถั่วเล็กลีบ" หรือ "ปมเล็กๆ" ที่อยู่ภายในท่อ
เทคนิค: คลำจากล่างขึ้นบน (จากปลายมือไปทางหัวไหล่) เพราะเลือดไหลจากปลายมือกลับสู่หัวใจ การคลำในทิศทางนี้จะช่วยให้ระบุตำแหน่ง valve ได้ชัดเจนกว่า
3. เลือกจุดเจาะที่เหมาะสมสัมพันธ์กับ Valve
เมื่อคุณระบุตำแหน่ง valve ได้แล้ว ให้ปฏิบัติตามนี้:
กฎทอง: "เจาะก่อนถึง valve" (Enter Before the Valve)
อย่าเจาะลงไปตรงๆ บน valve เพราะเข็มจะไปติดหรือเจาะผ่านมันได้ยาก ทำให้ผู้ป่วยเจ็บมากและอาจล้มเหลว
ให้เลือกจุดที่อยู่ก่อนหน้า (proximal to) หรือหลังจาก (distal to) valve ประมาณ 0.5 - 1 ซม. โดยส่วนใหญ่แล้ว การเจาะก่อนถึง valve (ด้านที่ใกล้ตัวผู้ป่วยมากกว่า) จะง่ายกว่าเพราะเลือดดันมาเต็มอยู่แล้ว
4. ใช้เทคนิคการดึงปลายเข็ม (Retracting the Catheter) หลังเจาะ
บางครั้งเราอาจประเมินตำแหน่ง valve ไม่ถูกต้อง หรือมองไม่เห็นมัน
หลังจากที่เจาะเข้าเส้นเลือดดำสำเร็จและเห็นเลือดไหลกลับมาแล้ว (Flashback)
ก่อนที่จะสอด catheter (ท่อพลาสติก) เข้าไปให้หมด ให้ลองดึงเข็มและ catheter กลับมาด้วยกันนิดหน่อย (retract slightly)
แล้วค่อยสอด catheter เข้าไปใหม่: การขยับเล็กน้อยนี้ อาจช่วยให้ปลาย catheter ผ่านจุดที่อาจเป็น valve ไปได้อย่างนุ่มนวลขึ้น
5. รู้ตำแหน่งที่มักจะมี Valve บ่อย
แม้ valve จะพบได้ทุกที่ แต่มีบางตำแหน่งที่พบได้บ่อยกว่า:
บริเวณรอยพับแขน (Antecubital Fossa): โดยเฉพาะที่เส้น Median Cubital Vein
บริเวณที่เส้นเลือดแยก เช่น จุดที่เส้นเลือดบนหลังมือแยกไปยังแต่ละนิ้ว
สรุปเป็นขั้นตอนปฏิบัติ
1. รัด Tourniquet และหาเส้นเลือด ที่ดูตรงและนุ่ม
2. ใช้ปลายนิ้วชี้ลูบคลำ เส้นเลือดเบาๆ เพื่อหาจุดที่รู้สึกเหมือนมีปมหรือก้อนนิ่มๆ
3. เลือกจุดเจาะ ที่ห่างจาก "ปม" ที่คลำได้ประมาณครึ่งถึงหนึ่งเซนติเมตร
4. ขณะเจาะ หากรู้สึกว่ามีแรงต้านมากผิดปกติ หรือผู้ป่วยบ่นเจ็บมาก ให้สงสัยว่าเข็มอาจไปโดน valve
5. หยุดเจาะ ดึงเข็มกลับมาเล็กน้อย (ยังไม่ต้องดามออกจากผิวหนัง) แล้วลองเปลี่ยนมุมหรือตำแหน่งเล็กน้อยก่อนสอด catheter
ข้อดีของการหลีกเลี่ยง
ลดความเจ็บปวด ให้ผู้ป่วยอย่างมาก
เพิ่มอัตราความสำเร็จ ในการสอด catheter เพราะเลือดไหลกลับมาได้ดีและสอด catheter ได้ลื่นไหล
ลดการบาดเจ็บ ต่อผนังเส้นเลือดและ valve เอง ซึ่งช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนเช่น เส้นเลือดอักเสบ (Phlebitis)
การคลำให้คุ้นชินกับความรู้สึกของ valve นี้ต้องใช้ประสบการณ์ พยายามฝึกคลำเส้นเลือดในผู้ป่วยหรือบนหุ่นฝึกบ่อยๆ คุณจะเริ่มแยกแยะความแตกต่างได้เองครับ
การเลือกเส้นเลือดสำหรับให้สารน้ำ ( intravenous fluid) เป็นขั้นตอนสำคัญในการพยาบาล มาดูรายละเอียดกันเลย
หลักการทั่วไปในการเลือกเส้นเลือด
หลักใหญ่ๆ คือการเลือก เส้นเลือดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ตามลำดับความสำคัญ
1. สภาพของผู้ป่วย (สำคัญที่สุด)
2. ประเภทและความเร่งด่วนของสารน้ำ/ยาที่จะให้
3. ลักษณะของเส้นเลือด
4. ความถนัดของบุคลากร
ขั้นตอนและวิธีการเลือกเส้นเลือดโดยละเอียด
1. ตรวจสอบคำสั่งทางการแพทย์และประเมินผู้ป่วย
อ่านคำสั่งแพทย์: ดูว่าสั่งให้ให้สารน้ำประเภทใด (เช่น Normal Saline, Dextrose) ปริมาณเท่าไหร่ เร็วแค่ไหน
ประเมินสภาพผู้ป่วย:
ภาวะเร่งด่วน: หากเป็นกรณีฉุกเฉิน (เช่น ช็อก เสียเลือดมาก) จำเป็นต้องหาเส้นเลือดใหญ่ๆ ที่ให้สารน้ำได้เร็ว เช่น เส้นเลือดที่แขนหรือศูนย์การให้สารน้ำ (หากบุคลากรมีความชำนาญ)
โรคประจำตัว: ผู้ป่วยโรคไตวาย เบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงการเจาะที่แขนข้างที่ทำการฟอกเลือดหรือผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองออก
กิจกรรมของผู้ป่วย: ถ้าผู้ป่วยต้องใช้มือข้างนั้นทำกิจกรรม (เช่น เขียนหนังสือ) อาจเลือกเจาะที่ข้างที่ไม่ถนัด
2. เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม (เรียงจากแนะนำไปหาที่ไม่แนะนำ)
บริเวณปลายแขน (Forearm): เป็นตำแหน่ง ที่ดีที่สุด
เหตุผล: เส้นเลือดตรงและใหญ่พอสมควร, อยู่บนพื้นเรียบทำให้ติดเทปง่าย, ผู้ป่วยสามารถขยับมือและข้อมือได้โดยไม่กระทบกับเส้นเลือด, ลดโอกาสที่เข็มจะทิ่มผนังเส้นเลือด (infiltration)
เช่น เส้น Cephalic Vein, Basilic Vein
บริเวณหลังมือ (Dorsum of Hand):
เหตุผล: หาเส้นได้ง่าย แต่มีข้อเสียคือเจ็บกว่าบริเวณแขน และผู้ป่วยอาจรู้สึก不便เมื่อขยับมือ
เหมาะสำหรับ: การให้สารน้ำที่ไม่ค่อยระคายเคืองต่อเส้นเลือด และไม่ต้องให้เป็นเวลานานหลายวัน
บริเวณรอยพับแขน (Antecubital Fossa เช่น เส้น Cephalic, Basilic, Median cubital vein):
เหตุผล: เป็นเส้นเลือดที่ใหญ่และเห็นชัดเจน
เหมาะสำหรับ: กรณีฉุกเฉิน ที่ต้องให้สารน้ำเร็วๆ, การเจาะเพื่อเก็บเลือด, หรือการให้สารน้ำที่หนาแน่น (เช่น สารอาหารทางเส้นเลือด)
ข้อเสีย: อยู่ตรงข้อพับ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเหยียดแขนได้เต็มที่ อาจทำให้เข็มหลุดหรือสารน้ำซึมออกนอกเส้นได้ง่ายหากไม่ดามข้อพับให้ตรง
บริเวณอื่นๆ: เช่น ข้อเท้า, เท้า มักเป็น ตัวเลือกสุดท้าย
เหตุผล: เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (thrombophlebitis) สูง โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
พิจารณาใช้เมื่อ: ไม่สามารถหาเส้นเลือดที่แขนและมือได้แล้ว หรือในผู้ป่วยเด็กเล็ก
3. พิจารณาขนาดของเส้นเลือดและเข็ม (Gauge)
สารน้ำทั่วไป/ให้ยาปกติ: ใช้เข็มขนาด 22 G (สีฟ้า) หรือ 20 G (ชมพู)
กรณีฉุกเฉินที่ต้องให้สารน้ำปริมาณมากเร็วๆ: ใช้เข็มขนาดใหญ่ เช่น 18 G (เขียว) หรือใหญ่กว่า
ให้เลือด (Blood transfusion): ควรใช้เข็มขนาด 20 G (ชมพู) ขึ้นไป เพื่อไม่ให้เม็ดเลือดแตก
ผู้ป่วยเด็กหรือเส้นเลือดเล็ก: อาจต้องใช้เข็มขนาด 24 G (เหลือง)
หลักง่ายๆ: เลือกขนาดเข็มที่ใหญ่ที่สุดที่เหมาะสมกับขนาดเส้นเลือดของผู้ป่วย เพื่อให้สารน้ำไหลได้ดีและลดการระคายเคือง
4. ตรวจสอบคุณภาพของเส้นเลือด
เลือกเส้นเลือดที่มีลักษณะดังนี้
ตรง และ นุ่ม เมื่อลูบเบาๆ
มีความยืดหยุ่น (ไม่แข็งตึง)
ไม่บิดเป็นเกลียว
ควรหลีกเลี่ยง เส้นเลือดที่:
อยู่ใกล้ข้อพับ
บิดเป็นเกลียว แข็ง
บริเวณที่เคยถูกเจาะบ่อยๆ หรือมีรอยฟกช้ำ
บริเวณข้างเคียงมีอาการบวม แดง อักเสบ
สรุปเป็นขั้นตอนง่ายๆ
1. ดูคำสั่งและประเมินผู้ป่วย: รู้ว่าต้องให้อะไร เร็วแค่ไหน ผู้ป่วยเป็นอะไรบ้าง
2. เลือกข้างและตำแหน่ง: เริ่มหาจาก ปลายแขน ก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยไปที่ หลังมือ ส่วนรอยพับแขนไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
3. เลือกขนาดเข็มให้เหมาะสม: กับทั้งสภาพผู้ป่วยและประเภทของสารน้ำ
4. เลือกเส้นเลือดที่ดี: ตรง นุ่ม ยืดหยุ่น
5. ใช้ Tourniquet (สายรัด) ให้ถูกต้อง: รัดให้แน่นพอสมควรและรัด above the site (เหนือจุดที่ต้องการเจาะ) 1-2 นิ้ว
ข้อควรระวังพิเศษ
ในผู้สูงอายุ: ผิวบาง เส้นเลือดเปราะ แตกง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรเลือกเส้นเลือดที่ตื้นและดามให้ดี
ในเด็ก: มักใช้เส้นเลือดที่หลังมือ ข้อเท้า หรือศีรษะ (ในเด็กเล็กมาก) ซึ่งต้องใช้ความชำนาญ
สำคัญ: ทักษะนี้ต้องอาศัยการฝึกฝน หากเป็นผู้เริ่มต้น ควรฝึกบนหุ่นจำลองและมีผู้มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำก่อนทำในผู้ป่วยจริง
เป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมและสำคัญมากครับ! การหลีกเลี่ยง valve ของหลอดเลือดดำ (Venous valve) เป็นเทคนิคขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จและลดความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยได้อย่างมาก
Valve ของหลอดเลือดดำคืออะไรและอยู่ที่ไหน?
หน้าที่: มันคือแผ่นพับเล็กๆ ภายในเส้นเลือดดำที่ทำหน้าที่ ป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ คล้ายประตูเปิด-ปิดทางเดียว
ตำแหน่ง: มักอยู่บริเวณ จุดที่เส้นเลือดแยก分支 (Bifurcation) หรือบริเวณที่เส้นเลือดเชื่อมต่อกัน ( anastomosis) ซึ่งเป็นจุดที่แรงดันเลือดเปลี่ยนแปลง
5 วิธีหลัก ในการหลีกเลี่ยง Valve อย่างได้ผล
1. การสังเกตด้วยตา (Visual Inspection) - วิธีพื้นฐานที่สุด
มองหาจุด "บวม" หรือ "โป่ง" เป็นช่วงๆ: เส้นเลือดที่มี valve มักจะดูเป็นปล้องๆ คล้ายเส้นไส้กรอก เพราะ valve จะทำให้เลือดค้างและป่องออกมาด้านหน้าของ valve
ตัวอย่าง: คุณอาจเห็นเส้นเลือดที่ตรงๆ ดี แต่มีบางจุดที่ป่องออกมาเป็นตุ้มเล็กๆ นั่นแหละคือตำแหน่งของ valve
2. การคลำด้วยนิ้ว (Palpation) - วิธีที่สำคัญและแม่นยำที่สุด
นี่คือหัวใจของเรื่องนี้เลย เมื่อคุณรัด tourniquet และเห็นเส้นเลือดแล้ว ให้ใช้ ปลายนิ้วชี้ (ไม่ใช้เล็บ) ลูบเบาๆ ไปตามความยาวของเส้นเลือด
ความรู้สึกเมื่อเจอ Valve: คุณจะรู้สึกถึง ก้อนนิ่มๆ เล็กๆ (soft nodule) หรือจุดที่มีความต้านทานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยภายในเส้นเลือด
เปรียบเทียบ: รู้สึกคล้ายกับ "เม็ดถั่วเล็กลีบ" หรือ "ปมเล็กๆ" ที่อยู่ภายในท่อ
เทคนิค: คลำจากล่างขึ้นบน (จากปลายมือไปทางหัวไหล่) เพราะเลือดไหลจากปลายมือกลับสู่หัวใจ การคลำในทิศทางนี้จะช่วยให้ระบุตำแหน่ง valve ได้ชัดเจนกว่า
3. เลือกจุดเจาะที่เหมาะสมสัมพันธ์กับ Valve
เมื่อคุณระบุตำแหน่ง valve ได้แล้ว ให้ปฏิบัติตามนี้:
กฎทอง: "เจาะก่อนถึง valve" (Enter Before the Valve)
อย่าเจาะลงไปตรงๆ บน valve เพราะเข็มจะไปติดหรือเจาะผ่านมันได้ยาก ทำให้ผู้ป่วยเจ็บมากและอาจล้มเหลว
ให้เลือกจุดที่อยู่ก่อนหน้า (proximal to) หรือหลังจาก (distal to) valve ประมาณ 0.5 - 1 ซม. โดยส่วนใหญ่แล้ว การเจาะก่อนถึง valve (ด้านที่ใกล้ตัวผู้ป่วยมากกว่า) จะง่ายกว่าเพราะเลือดดันมาเต็มอยู่แล้ว
4. ใช้เทคนิคการดึงปลายเข็ม (Retracting the Catheter) หลังเจาะ
บางครั้งเราอาจประเมินตำแหน่ง valve ไม่ถูกต้อง หรือมองไม่เห็นมัน
หลังจากที่เจาะเข้าเส้นเลือดดำสำเร็จและเห็นเลือดไหลกลับมาแล้ว (Flashback)
ก่อนที่จะสอด catheter (ท่อพลาสติก) เข้าไปให้หมด ให้ลองดึงเข็มและ catheter กลับมาด้วยกันนิดหน่อย (retract slightly)
แล้วค่อยสอด catheter เข้าไปใหม่: การขยับเล็กน้อยนี้ อาจช่วยให้ปลาย catheter ผ่านจุดที่อาจเป็น valve ไปได้อย่างนุ่มนวลขึ้น
5. รู้ตำแหน่งที่มักจะมี Valve บ่อย
แม้ valve จะพบได้ทุกที่ แต่มีบางตำแหน่งที่พบได้บ่อยกว่า:
บริเวณรอยพับแขน (Antecubital Fossa): โดยเฉพาะที่เส้น Median Cubital Vein
บริเวณที่เส้นเลือดแยก เช่น จุดที่เส้นเลือดบนหลังมือแยกไปยังแต่ละนิ้ว
สรุปเป็นขั้นตอนปฏิบัติ
1. รัด Tourniquet และหาเส้นเลือด ที่ดูตรงและนุ่ม
2. ใช้ปลายนิ้วชี้ลูบคลำ เส้นเลือดเบาๆ เพื่อหาจุดที่รู้สึกเหมือนมีปมหรือก้อนนิ่มๆ
3. เลือกจุดเจาะ ที่ห่างจาก "ปม" ที่คลำได้ประมาณครึ่งถึงหนึ่งเซนติเมตร
4. ขณะเจาะ หากรู้สึกว่ามีแรงต้านมากผิดปกติ หรือผู้ป่วยบ่นเจ็บมาก ให้สงสัยว่าเข็มอาจไปโดน valve
5. หยุดเจาะ ดึงเข็มกลับมาเล็กน้อย (ยังไม่ต้องดามออกจากผิวหนัง) แล้วลองเปลี่ยนมุมหรือตำแหน่งเล็กน้อยก่อนสอด catheter
ข้อดีของการหลีกเลี่ยง
ลดความเจ็บปวด ให้ผู้ป่วยอย่างมาก
เพิ่มอัตราความสำเร็จ ในการสอด catheter เพราะเลือดไหลกลับมาได้ดีและสอด catheter ได้ลื่นไหล
ลดการบาดเจ็บ ต่อผนังเส้นเลือดและ valve เอง ซึ่งช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนเช่น เส้นเลือดอักเสบ (Phlebitis)
การคลำให้คุ้นชินกับความรู้สึกของ valve นี้ต้องใช้ประสบการณ์ พยายามฝึกคลำเส้นเลือดในผู้ป่วยหรือบนหุ่นฝึกบ่อยๆ คุณจะเริ่มแยกแยะความแตกต่างได้เองครับ