แชร์

การช่วยหายใจในการกู้ชีพ แบบ AHA2025 ?

51 ผู้เข้าชม

ช่วยหายใจ แบบ AHA2025
สรุปแบบสั้นๆ: ถูกต้องคือ "ปากเป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ จนเห็นหน้าอกผู้ป่วยยกขึ้นพอประมาณ แล้วก็หยุด" โดยต้องไม่เร็วและไม่ช้าเกินไป**
คู่มือปฏิบัติ: การช่วยหายใจที่ถูกต้องตามแนวทางล่าสุด
1. เป้าหมายหลัก (The Goal)
* ทำให้หน้าอกผู้ป่วย "ยกขึ้นพอเห็นได้ชัด" (Produce Visible Chest Rise) นี่คือตัวบอกปริมาณลมที่พอดี
2. ปริมาณและวิธีการ (How to Do It)
* ปริมาณลม (Tidal Volume): ให้ลมในปริมาณที่ "พอให้หน้าอกยกขึ้น" เท่านั้น ไม่ต้องพยายามเป่าลมแรงๆ หรือเต็มปอดของคุณ
* ระยะเวลา: ในการเป่าหนึ่งครั้ง ควรใช้เวลาประมาณ 1 วินาที ต่อ
* เทคนิค: ระหว่างเป่าปาก ให้บีบจมูกผู้ป่วยไว้ และประกบปากให้สนิท หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ (Face Shield/Mask) หากมี
3. สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง (What to Avoid)
แนวทางนี้เน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด 2 ประการใหญ่ๆ:
1. การช่วยหายใจน้อยเกินไป (Hypoventilation)
* คืออะไร: ให้ลม น้อยเกินไป (หน้าอกไม่ยก) หรือให้ ช้าเกินไป (น้อย)
* ผลเสีย: ผู้ป่วยไม่ได้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองและอวัยวะสำคัญ ทำให้การกู้ชีวิตไม่สำเร็จ
2. การช่วยหายใจมากเกินไป (Hyperventilation)
* คืออะไร: ให้ลม มากเกินไป (เป่าแรงจนหน้าอกพองเกิน) หรือให้ เร็วเกินไป (มาก)
* ผลเสีย: อันตรายยิ่งกว่ามาก เพราะ:
* เพิ่มแรงดันในทรวงอก: ทำให้เลือดไหลกลับเข้าหัวใจน้อยลง ส่งผลให้การนวดหัวใจมีประสิทธิภาพลดลง
* ทำให้ท้องอืด: อาจทำให้ผู้ป่วยอาเจียนและสำลักได้
* รบกวนการไหลเวียนเลือด: ลดอัตราการรอดชีวิต
4. อัตราการช่วยหายใจ (Rate)
* ในกรณีที่ มีเครื่องช่วยหายใจขั้นสูง (เช่น ใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว) แนวทางมาตรฐานคือ 10 ครั้ง/นาที (หรือประมาณ 1 ทุก 6 วินาที)
* ในกรณีที่ ทำการเป่าปากผู้ป่วยโดยตรง (ไม่มีท่อ) อัตราที่เหมาะสมคือ 1 次ทุก 6 วินาที เช่นเดียวกัน
เหตุผลเชิงลึกทางการแพทย์
ทำไมถึงต้องเน้น "เห็นหน้าอกยกขึ้น" และหลีกเลี่ยงการหายใจมากเกินไป?
* หลักการทางสรีรวิทยา: ในระหว่างการนวดหัวใจ การไหลเวียนเลือดเกิดขึ้นในปริมาณที่จำกัดมาก การช่วยหายใจมากเกินไปจะไปรบกวนการเติมเลือดกลับเข้าหัวใจ (Venous Return) ระหว่างที่หน้าอกคืนตัว ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมาก
* ข้อมูลจากการวิจัย: การศึกษาจริง (Real-world Studies) พบว่าผู้ช่วยชีวิตมักมีแนวโน้มช่วยหายใจ มากเกินไป เนื่องจากความตื่นเต้นและกดดัน ซึ่งส่งผลเสียต่อความดันในทรวงอกและผลลัพธ์การรอดชีวิตโดยรวม
* การปฏิบัติที่เรียบง่าย: การใช้ "Visible Chest Rise" เป็นเครื่องมือตรวจสอบ เป็นวิธีที่และปฏิบัติได้จริงที่สุดในสถานการณ์วิกฤต แทนที่จะต้องมานั่งคำนวณปริมาณลมที่ซับซ้อน
สรุปขั้นตอนปฏิบัติสำหรับผู้ช่วยชีวิต
1. จัดท่าผู้ป่วย ให้ศีรษะตกไปด้านหลังเล็กน้อย (Head-tilt chin-lift) เพื่อเปิดทางเดินหายใจ
2. บีบจมูก, ประกบปากให้สนิท
3. เป่าลมเข้าไปอย่างช้าๆ เป็นเวลา 1 วินาที ขณะที่สายตามองดูหน้าอกผู้ป่วย
4. หยุดเป่าเมื่อเห็นหน้าอกเริ่มยกขึ้น นี่คือสัญญาณบอกว่าพอแล้ว
5. ปล่อยปาก เพื่อให้ลมออกตามธรรมชาติ และเป่าซ้ำอีก
6. กลับไปนวดหัวใจต่อทันที โดยทำอัตราส่วน 30:2 (นวดหัวใจ 30 , ช่วยหายใจ 2 ) หรือตามโปรโตคอลที่กำหนด
การช่วยหายใจที่ถูกต้องนี้ ร่วมกับการนวดหัวใจที่มีคุณภาพบนพื้นผิวที่แข็ง จะทำงานร่วมกันเป็น "คู่หู" ที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ผู้ป่วยได้

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy