ทำไมเราหายใจทางจมูก?
20 ผู้เข้าชม

ทำไมเราหายใจทางจมูก?
1. โครงสร้างหลักที่เป็น "ทางเดิน" ของอากาศ (จากจมูก/ปาก ลงไปยังปอด)
A. ทางเดินหายใจส่วนบน (Upper Airway)
1. จมูก (Nose) และช่องจมูก (Nasal Cavity)
· ความสำคัญ: เป็นทางเลือกสำหรับใส่ Nasopharyngeal Airway (NPA)
· จุดระวัง: เนื้อเยื่อบุจมูกบอบบาง เลือดออกง่าย, มีฐานกระดูก (Turbinates) ที่อาจถูกกระทบกระเทือน
2. ปาก (Mouth) และช่องปาก (Oral Cavity)
· โครงสร้างสำคัญ:
· ลิ้น (Tongue): เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด! เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อก้อนใหญ่ที่อาจตกลงไปอุดทางเดินหายใจเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
· ลิ้นไก่ (Uvula): เป็น Landmark ที่เห็นเมื่อมองในปาก
· เพดานอ่อน (Soft Palate) และ ลิ้นไก่ (Uvula): เป็นจุดที่ OPA ต้องเลี่ยงไปไม่โดนกด
· ความสำคัญ: เป็นทางผ่านหลักสำหรับการใส่ Oropharyngeal Airway (OPA) และการส่องกล้องใส่ท่อช่วยหายใจ
3. คอหอย (Pharynx)
· แบ่งเป็น 3 ส่วน:
· Nasopharynx: ต่อจากช่องจมูก
· Oropharynx: ต่อจากช่องปาก (เป็นจุดที่ OPA วางอยู่)
· Hypopharynx/Laryngopharynx: ต่อลงไปสู่กล่องเสียงและหลอดอาหาร
B. ทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Airway) - จุดที่ต้องเปิดให้อากาศผ่าน
1. กล่องเสียง (Larynx) - "ประตูสู่หลอดลม"
· หน้าที่: ควบคุมการหายใจและการพูด ป้องกันการสำลัก
· โครงสร้างสำคัญที่สุด:
· Epiglottis (ลิ้นปิดกล่องเสียง): เป็นแผ่นกระดูกอ่อนรูปใบไม้ ทำหน้าที่เหมือนฝาปิด คอยปิดกล่องเสียงเวลากลืนอาหาร ในการส่องกล้องใส่ท่อ นี่คือ Landmark ชิ้นแรกที่ต้องหาให้เจอ
· Vocal Cords (เส้นเสียง): เป็นช่องเปิดสู่หลอดลม (Glottis)
· Arytenoid Cartilages: กระดูกอ่อนหลังเส้นเสียง ช่วยในการเปิด-ปิดเส้นเสียง
2. หลอดลม (Trachea)
· หน้าที่: เป็นท่อลำเลียงอากาศหลักไปยังปอด
· จุดสำคัญ: ถูกห้อมล้อมโดย กระดูกอ่อน Thyroid Cartilage, Cricoid Cartilage และ วงแหวน C-shaped
2. Landmark ภายนอกที่ "คลำได้" และสำคัญต่อการปฏิบัติการ
1. Thyroid Cartilage (ลูกกระเดือก)
· ลักษณะ: กระดูกอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในคอ คลำได้ชัดเจนในผู้ชาย
· ความสำคัญ: เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญ
2. Cricoid Cartilage
· ลักษณะ: วงแหวนกระดูกอ่อนที่อยู่ ใต้ Thyroid Cartilage โดยตรง คลำได้เป็นแถบแข็งๆ
· ความสำคัญอย่างยิ่ง:
· จุดกด Cricoid Pressure (Sellick's Maneuver): กดเพื่อปิดหลอดอาหาร ช่วยป้องกันการสำลักระหว่างใส่ท่อช่วยหายใจ
· เป็น Landmark ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเจาะคอฉุกเฉิน
3. Cricothyroid Membrane
· ตำแหน่ง: เป็นเยื่อบางๆ ระหว่าง Thyroid Cartilage กับ Cricoid Cartilage
· ความสำคัญที่สุด: เป็นจุดสำหรับ "การเจาะคอฉุกเฉิน" (Cricothyroidotomy) เมื่อไม่สามารถเปิดทางเดินหายใจระดับบนได้ (เช่น ใบหน้าบวมฉุย, มีเลือดออกมาก) เพื่อให้อากาศเข้าสู่ปอดโดยตรง
4. Tracheal Rings (วงแหวนหลอดลม)
· ลักษณะ: วงแหวนกระดูกอ่อนรูปตัว C อยู่ใต้ Cricoid Cartilage ลงไป
· ความสำคัญ: เป็นจุดสำหรับทำ Surgical Tracheostomy (แต่ไม่ใช่จุดแรกสำหรับการช่วยชีวิตฉุกเฉิน)
3. ภาพรวมการทำงานของกล้ามเนื้อ
· กล้ามเนื้อที่ยึดลิ้นและขากรรไกร: เช่น Genioglossus, Masseter, Pterygoids
· ความสำคัญ: เมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว กล้ามเนื้อเหล่านี้จะคลายตัว ทำให้ลิ้นตกไปอุดทางเดินหายใจ และขากรรไกรตก การทำ Jaw Thrust หรือการใช้ OPA/NPA ก็เพื่อไปดึงหรือยึดโครงสร้างเหล่านี้ให้ทางเดินหายใจเปิดอยู่
สรุปเป็นแผนที่ง่ายๆ ในหัว
เมื่อคุณจัดการทางเดินหายใจ ให้คิดตามลำดับนี้จากบนลงล่าง:
จมูก/ปาก ลิ้น (ตัวปัญหาใหญ่) คอหอย Epiglottis (Landmark สำคัญ) ช่องเส้นเสียง (Glottis) หลอดลม ปอด
และเมื่อมองจากภายนอก ให้ ใช้นิ้วคลำหา Landmark เรียงจากบนลงล่างเสมอ:
ลูกกระเดือก (Thyroid) แถบแข็งใต้ลูกกระเดือก (Cricoid) ร่องระหว่าง (Cricothyroid Membrane)
การรู้กายวิภาคเหล่านี้อย่างแม่นยำ จะทำให้คุณเข้าใจหลักการของทุกเทคนิค ตั้งแต่การทำ Head Tilt-Chin Lift ไปจนถึงการเจาะคอฉุกเฉิน และที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยจมูกกว่าจะถึงปอดต้องผ่านอะไรบ้าง
1. โครงสร้างหลักที่เป็น "ทางเดิน" ของอากาศ (จากจมูก/ปาก ลงไปยังปอด)
A. ทางเดินหายใจส่วนบน (Upper Airway)
1. จมูก (Nose) และช่องจมูก (Nasal Cavity)
· ความสำคัญ: เป็นทางเลือกสำหรับใส่ Nasopharyngeal Airway (NPA)
· จุดระวัง: เนื้อเยื่อบุจมูกบอบบาง เลือดออกง่าย, มีฐานกระดูก (Turbinates) ที่อาจถูกกระทบกระเทือน
2. ปาก (Mouth) และช่องปาก (Oral Cavity)
· โครงสร้างสำคัญ:
· ลิ้น (Tongue): เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด! เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อก้อนใหญ่ที่อาจตกลงไปอุดทางเดินหายใจเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
· ลิ้นไก่ (Uvula): เป็น Landmark ที่เห็นเมื่อมองในปาก
· เพดานอ่อน (Soft Palate) และ ลิ้นไก่ (Uvula): เป็นจุดที่ OPA ต้องเลี่ยงไปไม่โดนกด
· ความสำคัญ: เป็นทางผ่านหลักสำหรับการใส่ Oropharyngeal Airway (OPA) และการส่องกล้องใส่ท่อช่วยหายใจ
3. คอหอย (Pharynx)
· แบ่งเป็น 3 ส่วน:
· Nasopharynx: ต่อจากช่องจมูก
· Oropharynx: ต่อจากช่องปาก (เป็นจุดที่ OPA วางอยู่)
· Hypopharynx/Laryngopharynx: ต่อลงไปสู่กล่องเสียงและหลอดอาหาร
B. ทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Airway) - จุดที่ต้องเปิดให้อากาศผ่าน
1. กล่องเสียง (Larynx) - "ประตูสู่หลอดลม"
· หน้าที่: ควบคุมการหายใจและการพูด ป้องกันการสำลัก
· โครงสร้างสำคัญที่สุด:
· Epiglottis (ลิ้นปิดกล่องเสียง): เป็นแผ่นกระดูกอ่อนรูปใบไม้ ทำหน้าที่เหมือนฝาปิด คอยปิดกล่องเสียงเวลากลืนอาหาร ในการส่องกล้องใส่ท่อ นี่คือ Landmark ชิ้นแรกที่ต้องหาให้เจอ
· Vocal Cords (เส้นเสียง): เป็นช่องเปิดสู่หลอดลม (Glottis)
· Arytenoid Cartilages: กระดูกอ่อนหลังเส้นเสียง ช่วยในการเปิด-ปิดเส้นเสียง
2. หลอดลม (Trachea)
· หน้าที่: เป็นท่อลำเลียงอากาศหลักไปยังปอด
· จุดสำคัญ: ถูกห้อมล้อมโดย กระดูกอ่อน Thyroid Cartilage, Cricoid Cartilage และ วงแหวน C-shaped
2. Landmark ภายนอกที่ "คลำได้" และสำคัญต่อการปฏิบัติการ
1. Thyroid Cartilage (ลูกกระเดือก)
· ลักษณะ: กระดูกอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในคอ คลำได้ชัดเจนในผู้ชาย
· ความสำคัญ: เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญ
2. Cricoid Cartilage
· ลักษณะ: วงแหวนกระดูกอ่อนที่อยู่ ใต้ Thyroid Cartilage โดยตรง คลำได้เป็นแถบแข็งๆ
· ความสำคัญอย่างยิ่ง:
· จุดกด Cricoid Pressure (Sellick's Maneuver): กดเพื่อปิดหลอดอาหาร ช่วยป้องกันการสำลักระหว่างใส่ท่อช่วยหายใจ
· เป็น Landmark ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเจาะคอฉุกเฉิน
3. Cricothyroid Membrane
· ตำแหน่ง: เป็นเยื่อบางๆ ระหว่าง Thyroid Cartilage กับ Cricoid Cartilage
· ความสำคัญที่สุด: เป็นจุดสำหรับ "การเจาะคอฉุกเฉิน" (Cricothyroidotomy) เมื่อไม่สามารถเปิดทางเดินหายใจระดับบนได้ (เช่น ใบหน้าบวมฉุย, มีเลือดออกมาก) เพื่อให้อากาศเข้าสู่ปอดโดยตรง
4. Tracheal Rings (วงแหวนหลอดลม)
· ลักษณะ: วงแหวนกระดูกอ่อนรูปตัว C อยู่ใต้ Cricoid Cartilage ลงไป
· ความสำคัญ: เป็นจุดสำหรับทำ Surgical Tracheostomy (แต่ไม่ใช่จุดแรกสำหรับการช่วยชีวิตฉุกเฉิน)
3. ภาพรวมการทำงานของกล้ามเนื้อ
· กล้ามเนื้อที่ยึดลิ้นและขากรรไกร: เช่น Genioglossus, Masseter, Pterygoids
· ความสำคัญ: เมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว กล้ามเนื้อเหล่านี้จะคลายตัว ทำให้ลิ้นตกไปอุดทางเดินหายใจ และขากรรไกรตก การทำ Jaw Thrust หรือการใช้ OPA/NPA ก็เพื่อไปดึงหรือยึดโครงสร้างเหล่านี้ให้ทางเดินหายใจเปิดอยู่
สรุปเป็นแผนที่ง่ายๆ ในหัว
เมื่อคุณจัดการทางเดินหายใจ ให้คิดตามลำดับนี้จากบนลงล่าง:
จมูก/ปาก ลิ้น (ตัวปัญหาใหญ่) คอหอย Epiglottis (Landmark สำคัญ) ช่องเส้นเสียง (Glottis) หลอดลม ปอด
และเมื่อมองจากภายนอก ให้ ใช้นิ้วคลำหา Landmark เรียงจากบนลงล่างเสมอ:
ลูกกระเดือก (Thyroid) แถบแข็งใต้ลูกกระเดือก (Cricoid) ร่องระหว่าง (Cricothyroid Membrane)
การรู้กายวิภาคเหล่านี้อย่างแม่นยำ จะทำให้คุณเข้าใจหลักการของทุกเทคนิค ตั้งแต่การทำ Head Tilt-Chin Lift ไปจนถึงการเจาะคอฉุกเฉิน และที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยจมูกกว่าจะถึงปอดต้องผ่านอะไรบ้าง


