คำถาม : ปากกาปักพุงและการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักคืออะไร ?


คำถาม : ปากกาปักพุงและการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักคืออะไร ?
1. ปากกาปักพุง (Temporary Endoscopic Sleeve Gastroplasty ESG)
นี่คือหัตถการผ่านกล้องส่องทางเดินอาหารที่ไม่ใช่การผ่าตัด แต่เป็นวิธีการลดขนาดกระเพาะอาหารแบบชั่วคราว
หลักการทำงาน
แพทย์จะใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหาร (Gastroscope) ส่งผ่านทางปากลงไปในกระเพาะอาหาร ที่ปลายกล้องมีอุปกรณ์พิเศษคล้าย ปากกา สำหรับใช้เย็บ (Suture Device) แพทย์จะดึงผนังกระเพาะอาหารและเย็บให้ย่นเข้าหากันเป็นรูปทรงเหมือนกล้วยหรือแซนวิช ทำให้ปริมาตรความจุของกระเพาะอาหารลดลงเหลือประมาณ 70% ของเดิม
กลไกการลดน้ำหนัก
1. จำกัดปริมาณอาหาร: กระเพาะที่เล็กลงทำให้กินได้น้อย รู้สึกอิ่มเร็ว
2. ชะลอการระบายอาหาร: ทำให้อิ่มนาน
3. อาจมีผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและอิ่ม (เช่น เกรลิน)
ข้อดี
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
ฟื้นตัวเร็ว (13 วัน)
ความเสี่ยงแทรกซ้อนต่ำกว่าการผ่าตัด
สามารถทำซ้ำหรือย้อนกลับได้
ข้อจำกัด/ข้อเสีย
ผลลัพธ์ชั่วคราว (ไหมอาจคลายตัวใน 12 ปี)
น้ำหนักลดน้อยกว่าการผ่าตัด (ประมาณ 1520% ของน้ำหนักตัว)
ต้องมีวินัยควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
ค่าใช้จ่ายสูง และไม่ค่อยมีประกันครอบคลุม
เหมาะกับใคร
ผู้ที่มี BMI 3040 kg/m² ไม่อยากผ่าตัด และพร้อมปรับพฤติกรรม
2. การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery)
เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่เปลี่ยนโครงสร้างของระบบทางเดินอาหารอย่างถาวร เพื่อลดน้ำหนักและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน
กลุ่มที่ 1: จำกัดปริมาณอาหาร (Restrictive)
Sleeve Gastrectomy
ตัดกระเพาะออกส่วนใหญ่ เหลือเป็นท่อแคบ
ลดการผลิตฮอร์โมนเกรลิน (ความหิว)
ลดน้ำหนักได้ดีมาก ปัจจุบันนิยมที่สุด
กลุ่มที่ 2: จำกัดปริมาณ ลดการดูดซึม (Malabsorptive)
Gastric Bypass
ทำ pouch กระเพาะเล็ก ๆ ต่อเข้ากับลำไส้เล็กโดยข้ามกระเพาะส่วนใหญ่
จำกัดปริมาณอาหารและลดการดูดซึม
เพิ่ม GLP-1 และ PYY ช่วยควบคุมเบาหวาน
กลไกสำคัญ
ลดเกรลิน ลดความหิว
เพิ่ม GLP-1 และ PYY อิ่มง่าย น้ำตาลคุมดี
เปลี่ยนแปลง microbiome และการไหลของน้ำดี
ลดการดูดซึมพลังงาน
ข้อดี
น้ำหนักลดมากและยั่งยืน
ช่วยรักษาเบาหวาน ความดัน และโรคร่วมอื่น
มีงานวิจัยรองรับระยะยาว
ข้อเสีย/ความเสี่ยง
ผ่าตัดใหญ่ มีความเสี่ยงสูงกว่า
ภาวะแทรกซ้อน เช่น การขาดวิตามิน แร่ธาตุ Dumping syndrome
ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตลอดชีวิต
เหมาะกับใคร
BMI >35 มีโรคร่วม หรือ BMI >40 ที่วิธีอื่นไม่ได้ผล
ข้อสรุป
การเลือกระหว่าง ESG กับการผ่าตัดขึ้นกับระดับความอ้วน ภาวะสุขภาพร่วม ความพร้อมรับความเสี่ยง และทัศนคติของผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคอ้วนเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด


