เมื่อ AED มาถึงขั้นตอนแรกควรทำอย่างไร?
เมื่อ AED มาถึงขั้นตอนแรกควรทำอย่างไร?
คำตอบง่ายๆ สำหรับคนทั่วไป: ทำตามเสียงเครื่องบอกเลย!
3 ขั้นตอนง่ายๆ เมื่อเอา AED มาแล้ว:
1. เปิดเครื่อง (สำคัญที่สุด)
* กดปุ่มเปิด หรือเปิดฝาเครื่อง
* เครื่องจะพูดบอกเอง ว่าต้องทำอะไรต่อไป
* ไม่ต้องกังวล เครื่องจะสอนคุณทุกขั้นตอน
2. แผ่น
* เอาผ้าผู้ป่วยออก ให้เห็นหน้าอกเปล่าๆ
* ติดแผ่นตามรูป บนหน้าอกขวา-ล่างซ้าย
* แน่ใจว่า แผ่นติดแนบสนิท
3. ทำตามเสียงเครื่อง
* เครื่องจะวิเคราะห์ หัวใจเอง
* ถ้าต้องช็อก: เครื่องจะบอก "กดปุ่มช็อก"
* ระวัง: อย่าแตะตัวผู้ป่วย ขณะเครื่องวิเคราะห์และช็อก
สิ่งที่ต้องทำระหว่างใช้ AED
* ให้คนอื่นยืนห่างๆ
* ทำ CPR ต่อ ถ้าเครื่องบอก "ทำ CPR ต่อ"
* อย่าถอดแผ่นออกจนกว่าทีมหมอมา
สรุปสั้นๆ จำง่ายๆ
"เปิดเครื่อง แผ่น ทำตามเสียง"
AED ออกแบบมาให้ใช้ง่าย แม้ไม่เคยฝึกก็ใช้ได้ เพราะเครื่องจะบอกคุณทุกขั้นตอน
ข้อสำคัญ: ใช้ AED ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (ถ้ามีแผ่นเด็กให้ใช้แผ่นเด็ก)
ขอตอบเชิงลึกทางการแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการใช้งาน AED ที่ถูกต้อง
1. Algorithm ของ AED และการวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
1.1 Rhythm Analysis Technology
* Digital Signal Processing (DSP):
* Sampling rate 150-200 samples/วินาที
* Bandpass filtering 1-30 Hz เพื่อลด artifact
* Adaptive noise cancellation สำหรับ movement artifact
* Rhythm Classification Algorithm:
* วิเคราะห์ amplitude, frequency, morphology
* แยกแยะระหว่าง shockable (VF/VT) และ non-shockable rhythms
* Sensitivity >95% สำหรับ VF detection
2. การเตรียมผิวหนังและ electrode interface
2.1 Skin-Electrode Impedance
* ปกติอยู่ที่ 50-200 Ω เมื่อเตรียมผิวหนังถูกต้อง
* ปัจจัย impedance:
* ขนหน้าอก (เพิ่ม impedance 20-50%)
* เหงื่อ (ลด impedance)
* ผิวหนังแห้ง (เพิ่ม impedance)
* การลด transthoracic impedance:
* ขนหน้าอก (ต้องโกน)
* เช็ดผิวหนังให้แห้ง
* กด electrode ให้แนบสนิท
2.2 Electrode Positioning Physiology
* Anterolateral position:
* Electrode 1: ใต้ clavicle ขวา
* Electrode 2: ด้านซ้ายของหัวใจ (mid-axillary line)
* Current flow ผ่าน myocardium สูงสุด
* Anteroposterior position:
* ใช้ในเด็กหรือผู้ป่วยที่มีหน้าอกผิดปกติ
3. Energy Delivery และ Waveform Technology
3.1 Defibrillation Waveforms
* Biphasic Truncated Exponential (BTE):
* Current flow 2 ทิศทาง
* Energy 150-200 J สำหรับผู้ใหญ่
* Efficacy 85-90% สำหรับ first shock
* Rectilinear Biphasic:
* Constant current delivery
* เหมาะสำหรับ high impedance patients
3.2 Current-Based Defibrillation
* Optimal current 30-40 A สำหรับผู้ใหญ่
* Duration 10-20 ms ต่อ phase
* พลังงานคำนวณอัตโนมัติ ตาม measured impedance
4. Safety Mechanisms และการป้องกันข้อผิดพลาด
4.1 Rhythm Reconfirmation
* ก่อนช็อก: วิเคราะห์ rhythm ซ้ำ 2-3 ครั้ง
* Safety delay 2-3 วินาที หลัง "stand clear" prompt
* Continuous monitoring ระหว่าง charging
4.2 Motion Detection
* Accelerometer-based movement detection
* เสียงเตือนถ้าพบ movement ระหว่าง analysis
* shock ถ้ามีการเคลื่อนไหว
5. Post-Shock Physiology และการจัดการ
5.1 Myocardial Stunning
* เกิดขึ้น 10-30 วินาที หลังช็อก
* กลไก: Calcium overload และ mitochondrial dysfunction
* ต้องทำ CPR ทันที เพื่อ coronary perfusion
5.2 ROSC Detection
* AED ใหม่บางรุ่น ตรวจจับ pulsatile rhythm ได้
* Analyzes ECG waveform และ impedance variability
* เสียงแนะนำให้ตรวจชีพจร เมื่อน่าสงสัยว่ามี ROSC
6. Integration กับระบบ CPR
6.1 CPR Feedback Technology
* วัดความลึกและอัตรา จากการเคลื่อนไหวของ electrode
* Real-time coaching สำหรับ CPR quality
* Metronome สำหรับอัตรา 100-120 ครั้ง/นาที
6.2 Hands-off Time Minimization
* Pre-charging: เริ่ม charging ขณะทำ CPR
* Rhythm analysis 10 วินาที
* Target hands-off time <20 วินาที ต่อ cycle
7. Special Populations
7.1 Pediatric Defibrillation
* เด็ก <8 ปี หรือ <25 kg: ใช้ pediatric electrode
* พลังงาน 2-4 J/kg
* Initial dose 50 J สำหรับเด็ก >1 ปี
7.2 Patients with ICD/ Pacemaker
* ติด electrode ห่างจาก device >8 cm
* Avoid shocking ตรงเหนือ generator
* AED ยังใช้ได้ปลอดภัย
8. Data Recording และ Quality Improvement
8.1 Event Documentation
* บันทึก ECG waveform ทั้งหมด
* บันทึกเสียงและ timing ของการกดปุ่ม
* Download ได้สำหรับ quality review
8.2 Maintenance และ readiness
* Daily self-test
* Battery monitoring
* Electrode expiration tracking
9. Clinical Evidence และ Outcomes
9.1 Time to Defibrillation Impact
* ทุกนาทีที่ลดได้ survival เพิ่ม 7-10%
* AED + CPR: survival 50% ถ้าใช้ภายใน 3-5 นาที
9.2 Public Access Defibrillation Programs
* ** survival rate 40-50%** สำหรับ shockable rhythms
* ใช้ได้ผลโดย bystanders แม้ไม่มี training
สรุปทางการแพทย์
AED ออกแบบมาให้:
1. Simple: ใช้งานได้โดยไม่ต้อง training
2. Safe: multiple safety features
3. Effective: rhythm detection accuracy สูง
4. Integrated: ทำงานร่วมกับ CPR ได้ดี
เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ AED เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งใน chain of survival สำหรับ cardiac arrest
