แชร์

คำถามตอบแพทย์ : Dx STEMI คือ

คำถามตอบแพทย์ : Dx STEMI คือ
ST-Elevation Myocardial Infarction (STEMI): การวินิจฉัยและการจัดการเชิงลึกทางการแพทย์
STEMI เป็นภาวะฉุกเฉินทางหัวใจที่ร้ายแรงที่สุดรูปแบบหนึ่งของ acute coronary syndrome (ACS) เกิดจากการอุดตันอย่างสมบูรณ์ของหลอดเลือดแดงโคโรนารี (complete coronary occlusion) ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรงและเกิดเนื้อตาย (myocardial necrosis) หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะนำไปสู่การเสียชีวิตหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

กลไกการเกิดโรค (Pathophysiology)
STEMI พัฒนาจากลำดับเหตุการณ์สำคัญทางพยาธิสรีรวิทยา:

การแตกของ atherosclerotic plaque ในผนังหลอดเลือดโคโรนารี ทำให้เนื้อเยื่อไขมันภายใน plaque สัมผัสกับกระแสเลือด

การกระตุ้นระบบการแข็งตัวของเลือด เกิด platelet activation และ aggregation สร้าง platelet-rich thrombus

การอุดตันสมบูรณ์ของหลอดเลือด (total occlusion) โดย thrombus ที่ก่อตัวอย่างรวดเร็ว ปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดทั้งหมด

Transmural ischemia ที่ลุกลามจาก endocardium ไปยัง epicardium ตามเวลาที่ผ่านไป โดยเริ่มเกิด myocardial necrosis ภายใน 20-30 นาทีหลังการอุดตัน

การเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เกิดการรั่วของ cardiac enzymes (troponin, CK-MB) และการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

ลักษณะอาการทางคลินิก (Clinical Presentation)
ผู้ป่วย STEMI มักแสดงอาการเด่นชัด:

อาการเจ็บหน้าอกแบบฉับพลัน ที่รุนแรงและต่อเนื่อง (>30 นาที):

ตำแหน่ง: กลางหน้าอกหรือด้านซ้าย

ลักษณะ: แน่น อึดอัดเหมือนมีอะไรบีบรัด

การร้าว: กราม แขนซ้าย หลัง หรือ epigastrium

ไม่ดีขึ้นเมื่อพักหรือใช้ nitroglycerin

อาการร่วมที่สำคัญ:

เหงื่อแตก ตัวเย็น (diaphoresis)

คลื่นไส้ อาเจียน

ใจสั่น หายใจลำบาก

รู้สึกเหมือนจะตาย (sense of impending doom)

กลุ่มอาการที่ไม่ typical พบได้ในผู้ป่วยบางกลุ่ม:

ผู้สูงอายุ: อาจมีเพียงอาการอ่อนเพลียหรือสับสน

ผู้ป่วยเบาหวาน: อาจไม่มีอาการเจ็บหน้าอกชัดเจน (silent MI)

ผู้หญิง: อาจมีอาการเหนื่อยหรือเวียนศีรษะเป็นหลัก

การตรวจวินิจฉัย (Diagnostic Approach)
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG):

ST-segment elevation >1 mm ใน limb leads หรือ >2 mm ใน precordial leads

Pathologic Q waves ที่ปรากฏในภายหลัง (6-12 ชม. หลังอาการ)

Reciprocal ST depression ใน lead ที่อยู่ตรงข้าม

New left bundle branch block (LBBB) ที่สอดคล้องกับอาการ

Cardiac biomarkers:

High-sensitivity cardiac troponin (hs-cTn): สูงขึ้นภายใน 3-4 ชม.

CK-MB: สูงขึ้นภายใน 4-8 ชม.

ควรตรวจซ้ำทุก 3-6 ชม. เพื่อดูแนวโน้ม

การตรวจทางภาพ (Imaging):

Echocardiography: ประเมิน wall motion abnormality และ complications

Coronary angiography: ตรวจหาตำแหน่งการอุดตัน (gold standard)

การจำแนกตามระยะเวลา (Temporal Classification)
Hyperacute phase (นาทีแรกๆ):

ECG: Tall peaked T waves (hyperacute T)

ยังไม่มี ST elevation ชัดเจน

Fully evolved phase (ชั่วโมงแรก):

ST elevation ชัดเจน

อาจมี reciprocal changes

Established phase (หลายชั่วโมงถึงวัน):

Q waves ปรากฏ

ST segment ค่อยๆ ลดลง

แนวทางการรักษา (Management)
การรักษาในระยะเฉียบพลัน:

Primary PCI (percutaneous coronary intervention):

เป็น treatment of choice หากทำได้ภายใน 90-120 นาทีหลังมาถึงโรงพยาบาล

เปิดหลอดเลือดด้วย balloon และ stent

Fibrinolytic therapy:

ใช้เมื่อไม่สามารถทำ PCI ได้ภายในเวลาที่กำหนด

ยาที่ใช้: Alteplase, Reteplase, Tenecteplase

ต้องไม่มี contraindication to thrombolysis

การรักษาด้วยยา:

Dual antiplatelet therapy (DAPT):

Aspirin 162-325 mg loading dose

P2Y12 inhibitor (Clopidogrel, Ticagrelor, Prasugrel)

Anticoagulation:

Heparin, Enoxaparin หรือ Bivalirudin

Adjunctive therapy:

Beta-blockers (ถ้าไม่มี contraindication)

High-intensity statin

ACE inhibitor/ARB ในผู้ป่วย LVEF <40%

การจัดการภาวะแทรกซ้อน:

Cardiogenic shock: Inotropic support, IABP

Ventricular arrhythmia: Defibrillation, Amiodarone

Heart failure: Diuretics, Afterload reduction

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ (Major Complications)
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดซ้ำ (Reinfarction)

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmias):

Ventricular tachycardia/fibrillation

AV block

กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด (Myocardial rupture)

หัวใจวาย (Heart failure)

Pericarditis

การฟื้นฟูและการป้องกันทุติยภูมิ
Cardiac rehabilitation เริ่มภายใน 1-2 สัปดาห์

การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต:

หยุดสูบบุหรี่

ควบคุมความดันโลหิตและเบาหวาน

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การรักษาด้วยยาระยะยาว:

DAPT อย่างน้อย 12 เดือน

High-intensity statin ตลอดชีวิต

Beta-blocker และ ACEI ในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้

STEMI เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุดในทางการแพทย์ โดยหลักสำคัญคือ "time is muscle" - ทุกนาทีที่ผ่านไปหมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่ตายเพิ่มขึ้น การลด door-to-balloon time ให้สั้นที่สุด (<90 นาที) จะช่วยรักษาชีวิตและสมรรถภาพหัวใจของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง
AF with WPW คืออะไร
เป็นภาวะฉุกเฉินทางหัวใจที่อันตราย
Hyper K คืออะไร
ภาวะที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงเกิน ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องจัดการทันที
คำถามตอบแพทย์ : Dx NSTE-ACS คือ
เป็นกลุ่มอาการของ acute coronary syndrome (ACS) ที่สำคัญซึ่งประกอบด้วย unstable angina (UA) และ non-ST-elevation myocardial infarction (NSTEMI)
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy