แชร์

หญิง 60 ปี หายใจลำบาก 3 เดือน เสียงหายใจลดลงปอดซ้าย เอกซเรย์พบความทึบแสง ตรวจอะไรเพื่อวินิจฉัย?

3 ผู้เข้าชม
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี มีอาการหายใจลำบากมา 3 เดือน ไม่มีโรคประจำตัว ตรวจร่างกาย: พบเสียงหายใจลดลงที่ปอดซ้าย ผลเอกซเรย์ปอด: พบความทึบแสงแบบ homogeneous ที่ปอดซ้าย?
A. ตรวจซีทีสแกนทรวงอก
B. ตรวจระดับสารซีอีเอในเลือด
C. ส่องกล้องตรวจหลอดลม
D. การเจาะระบายน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
ตอบ A. ตรวจซีทีสแกนทรวงอก (CT chest) 
จากอาการผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 60 ปี ที่มีอาการหายใจลำบากมา 3 เดือน โดยไม่มีโรคประจำตัว ตรวจร่างกายพบเสียงหายใจลดลงที่ปอดซ้าย และผลเอกซเรย์ทรวงอกแสดงความทึบแสงแบบ homogeneous ที่ปอดซ้าย อาการและการตรวจพบทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติภายในช่องอกที่ต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่มเติม
เมื่อวิเคราะห์ลักษณะทางคลินิกและรังสีวิทยา อาการหายใจลำบากเรื้อรัง 3 เดือนร่วมกับความทึบแสง homogeneous ที่ปอดซ้ายซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของ hemithorax ทำให้ต้องคิดถึงภาวะผิดปกติหลายอย่าง ได้แก่ ภาวะมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดปริมาณมาก (massive pleural effusion) ภาวะปอดแฟบจากก้อนเนื้อ (lung collapse from mass) หรือโรคของผนังหน้าอก
เมื่อพิจารณาตัวเลือกการตรวจวินิจฉัย A. ตรวจซีทีสแกนทรวงอก (CT chest) เป็นการตรวจที่เหมาะสมและให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากที่สุดเป็นลำดับแรก
เหตุผลเชิงลึกทางการแพทย์ที่เลือกซีทีสแกนทรวงอก:
1. ความสามารถในการให้ข้อมูลที่ครอบคลุม:
ซีทีสแกนสามารถแยกแยะระหว่าง pleural disease และ parenchymal lung disease
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของความทึบแสงว่าเป็นน้ำ เนื้อเยื่อ หรือก้อน
แสดงความสัมพันธ์ของความผิดปกติกับอวัยวะรอบข้าง
ประเมิน mediastinum และต่อมน้ำเหลือง
2. ความแม่นยำในการวินิจฉัย:
สามารถระบุได้ว่าความทึบแสงนั้นเป็น pleural effusion, lung mass, หรือ consolidation
ช่วยวางแผนการตรวจหรือการรักษาขั้นตอนต่อไป
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของ pleural surface ที่อาจบ่งชี้ malignancy
3. ความปลอดภัยและความเหมาะสม:
เป็นการตรวจที่ไม่รุกราน
ใช้เวลาไม่นาน
ให้ผลที่รวดเร็ว
การพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ:
B. ตรวจระดับสารซีอีเอในเลือด:
เป็น tumor marker ที่ใช้ติดตามมะเร็งบางชนิด
ไม่เหมาะสมเป็นการตรวจแรกเนื่องจากมีความจำเพาะต่ำ
อาจให้ผลบวกปลอมในหลายภาวะ
C. ส่องกล้องตรวจหลอดลม:
มีประโยชน์หากสงสัย endobronchial lesion
แต่เป็นหัตถการที่รุกรานมากกว่า
ควรทำหลังได้ข้อมูลจากซีทีสแกนก่อน
D. การเจาะระบายน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด:
มีประโยชน์หากยืนยันแล้วว่าเป็น pleural effusion
แต่มีความเสี่ยงหากทำโดยไม่มีข้อมูลจากซีทีสแกน
อาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนหากเป็นก้อนเนื้อ
แนวทางการจัดการผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ:
เริ่มด้วยซีทีสแกนทรวงอก เพื่อประเมินลักษณะของความทึบแสง
พิจารณาการตรวจเพิ่มเติม ตามผลซีทีสแกน
หากเป็น pleural effusion ควรทำ thoracentesis ภายใต้การแนะนำของอัลตราซาวด์
หากเป็น lung mass อาจต้องทำ bronchoscopy หรือ biopsy
การวินิจฉัยแยกโรคที่สำคัญ:
Malignant pleural effusion จากมะเร็งปอดหรือมะเร็งอื่น
Benign pleural effusion จากเชื้อ tuberculosis หรืออื่นๆ
Lung cancer with collapse
Mesothelioma
โดยสรุป การทำซีทีสแกนทรวงอกเป็นการตรวจที่เหมาะสมที่สุดเป็นลำดับแรก เนื่องจากให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำ ช่วยในการวางแผนการตรวจหรือการรักษาขั้นตอนต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากการทำหัตถการที่อาจไม่จำเป็น

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy