แชร์

การจัดการท่อช่วยหายใจเลื่อนลึกเกินไป

50 ผู้เข้าชม

ผู้ป่วยชายอายุ 30 ปี ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลชุมชน เนื่องจากตกจากต้นไม้ สัญญาณชีพ: อัตราการหายใจ 30 ครั้ง/นาที, อื่นๆ ปกติ ระดับความรู้ตัว: E2VtM5 (เปิดตาเมื่อถูกกระตุ้น, พูดไม่รู้เรื่อง, เคลื่อนไหวตามคำสั่งได้)
ความลึกของท่อช่วยหายใจ (ET tube) อยู่ที่ 26 ซม. ได้ยินเสียงหายใจลดลงที่ปอดซ้าย การจัดการรักษาเบื้องต้นควรทำอย่างไร?
จากการประเมินผู้ป่วยชายอายุ 30 ปี ที่ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลชุมชนด้วยประวัติตกจากต้นไม้ ซึ่งเป็นกลไกการบาดเจ็บที่มีพลังงานสูงและมักนำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบ ผู้ป่วยมีระดับความรู้ตัวลดลงที่ E2VtM5 ซึ่งแสดงว่ามีความผิดปกติของสมองจากการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือภาวะขาดออกซิเจน และจำเป็นต้องได้รับการดูแลทางเดินหายใจด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ

ปัญหาสำคัญที่พบคือตำแหน่งของท่อช่วยหายใจที่ความลึก 26 เซนติเมตรจากฟัน ซึ่งลึกเกินไปเมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วไปสำหรับผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่ควรอยู่ระหว่าง 21 ถึง 23 เซนติเมตร ร่วมกับการตรวจพบเสียงหายใจลดลงที่ปอดซ้าย ชุดอาการนี้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าท่อช่วยหายใจอาจเลื่อนลึกเกินไปจนเข้าสู่หลอดลมหลักขวา ในทางกายวิภาค หลอดลมหลักขวามีความกว้างและเอียงทำมุมน้อยกว่าหลอดลมหลักซ้าย ทำให้ท่อช่วยหายใจมีแนวโน้มที่จะเลื่อนเข้าไปทางด้านขวาได้ง่ายเมื่อใส่ลึกเกินไป การที่ท่อช่วยหายใจเข้าสู่หลอดลมหลักขวาจะทำให้อากาศเข้าไปเลี้ยงเฉพาะปอดขวาเท่านั้น ในขณะที่ปอดซ้ายจะไม่ได้รับอากาศ ทำให้เกิดภาวะ hypoventilation และ hypoxia อย่างรุนแรง

-การจัดการเบื้องต้นที่จำเป็นและเร่งด่วนที่สุดคือการปรับตำแหน่งท่อช่วยหายใจใหม่ ขั้นตอนแรกควรดูดเสมหะในท่อเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง จากนั้นคลายการยึดท่อที่ติดกับใบหน้าผู้ป่วย ค่อยๆ ดึงท่อออกมาจนถึงความลึกประมาณ 21 ถึง 22 เซนติเมตรจากฟัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยชายวัยผู้ใหญ่

-หลังจากปรับตำแหน่งแล้ว ต้องทำการประเมินอย่างเป็นระบบเพื่อยืนยันความถูกต้องของตำแหน่งท่อ เริ่มจากการฟังเสียงหายใจทั้งสองข้างที่บริเวณรักแร้ด้านหน้า ซึ่งควรได้ยินเสียงหายใจสมมาตรกัน การประเมินการขยายตัวของทรวงอกทั้งสองข้างว่าสมมาตรหรือไม่ การตรวจวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ตอนปลายลมหายใจซึ่งควรได้ค่าเกิน 35 มิลลิเมตรปรอท และการสังเกตการควบแน่นของไอน้ำในท่อขณะหายใจออก

-แม้ว่าการปรับตำแหน่งท่อจะแก้ไขปัญหาการเข้าหลอดลมหลักขวาได้ แต่ผู้ป่วยรายนี้ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นจากการบาดเจ็บจากการตกจากที่สูง ควรส่งตรวจเอกซเรย์ทรวงอกทันทีเพื่อยืนยันตำแหน่งท่อช่วยหายใจและตรวจหาภาวะแทรกซ้อนอื่นเช่น ภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ ปอดถูกบิดบังจากการบาดเจ็บ หรือมีเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอดนอกจากปัญหาทางเดินหายใจแล้ว ผู้ป่วยยังต้องการการประเมินการบาดเจ็บอื่นอย่างครบถ้วน การบาดเจ็บที่ศีรษะและสมองซึ่งสะท้อนจากระดับความรู้ตัวที่ลดลง การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง การบาดเจ็บภายในช่องท้อง และการบาดเจ็บของกระดูกเชิงกราน

-ระหว่างรอการตรวจเพิ่มเติม ควรดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยติดตามสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอัตราการหายใจและค่าออกซิเจนในเลือด ดูแลให้ได้ยาระงับประสาทและยาคลายกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการต่อต้านท่อช่วยหายใจ และเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การปรับตำแหน่งท่อช่วยหายใจที่ผิดพลาดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยแต่สามารถแก้ไขได้ง่ายหากตรวจจับได้เร็วและจัดการอย่างถูกต้อง การดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บรุนแรงต้องการความรอบคอบและความเอาใจใส่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดีต่อผู้ป่วย


บทความที่เกี่ยวข้อง
อาการบ้านหมุนเสียงหึ่งๆ เดินเซชาและอัมพาต เกิดจากการทำลายส่วนใด?
ชายอายุ 40 ปี มีอาการวิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน มีเสียงหึ่ง ๆ ในหูขวา เดินเซ ร่วมกับมีอาการชาและเป็นอัมพาตของ กล้ามเนื้อใบหน้าซีกขวา เกิดจากการทําลายส่วนใด?
อาการนอนไม่หลับ น้ำตาไหล หาวบ่อย คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียเกิดจาก?
หญิงอายุ 25 ปี มาด้วยอาการนอนไม่หลับ นํ้าตาไหล หาวบ่อย คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย เกิดจากข้อใด?
นั่งขัดสมาธินานๆเกิด foot drop บิดเท้าออกด้านนอกไม่ได้ เนื่องจาก nerve อะไรถูกกด?
หญิงอายุ 20 ปี นั่งขัดสมาธินาน ๆ เกิด foot drop และ บิดเท้าออกด้านนอกไม่ได้ เนื่องจาก nerve อะไรถูกกด?
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy