เช็คด่วน สัญญาณมะเร็งเต้านม ?

ผู้ป่วยหญิงอายุ 45 ปี มีก้อนที่เต้านมข้างซ้าย จากการตรวจร่างกายพบก้อนขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่บริเวณหนึ่งในสี่ด้านบนนอกของเต้านม มีลักษณะขรุขระและขยับได้เล็กน้อย และคลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ขนาด 1.5 เซนติเมตร จากการตรวจอัลตราซาวด์และแมมโมแกรมยืนยันว่ามีก้อนขนาด 2.5 เซนติเมตร วินิจฉัยอย่างไร?
A. Excisional bx mass
B. incisional bx mass
C. Core needle bx mass
D. Core needle bx LN
E. FNA LN
เฉลย: C. Core needle bx mass
จากอาการผู้ป่วยหญิงอายุ 45 ปี ที่มีก้อนที่เต้านมข้างซ้าย ขนาด 2.5 เซนติเมตร อยู่ที่บริเวณหนึ่งในสี่ด้านบนนอก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งเต้านม ร่วมกับลักษณะทางคลินิกที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ลักษณะก้อนที่ขรุขระไม่เรียบ ขยับได้จำกัด และที่สำคัญคือมีการคลำพบต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียวกันขนาด 1.5 เซนติเมตร อาการทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นอย่างมากถึงความเป็นไปได้ของโรคมะเร็งเต้านม
ลักษณะของก้อนที่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายสอดคล้องกับลักษณะของมะเร็งเต้านมชนิด invasive ที่พบบ่อย ซึ่งก้อนมะเร็งจะมีลักษณะแข็ง ขรุขระ เนื่องจากมีการลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้ขยับได้ไม่ดี การที่คลำพบต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ได้บ่งชี้ว่าอาจมีโรคแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัย prognosticator ที่สำคัญในการวางแผนการรักษา
การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมและแม่นยำที่สุดสำหรับการยืนยันการวินิจฉัยในกรณีนี้คือ **การตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ร่วมกับการใช้สุญญากาศ** หรือ vacuum-assisted core needle biopsy ภายใต้การแนะนำของอัลตราซาวด์ วิธีการนี้ได้เปรียบกว่าการตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดเล็กแบบธรรมดา เนื่องจากสามารถเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อได้ในปริมาณที่มากกว่าและมีคุณภาพดีกว่า เพียงพอสำหรับการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาและการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การตรวจหาตัวรับฮอร์โมน estrogen receptor, progesterone receptor และ HER2 receptor ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนการรักษาต่อไป
เหตุผลที่เลือกการตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่แทนการผ่าตัดเปิดตัดชิ้นเนื้อในครั้งแรก เนื่องจากเป็นวิธีการที่น้อย invasiveness กว่า ได้ผลแม่นยำใกล้เคียงกัน และที่สำคัญคือช่วยรักษาสภาพเดิมของก้อนและต่อมน้ำเหลืองสำหรับการวางแผนการรักษาในขั้นตอนต่อไป หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นมะเร็ง การรักษามาตรฐานในปัจจุบันจะเริ่มจากการให้เคมีบำบัดก่อนการผ่าตัดในกรณีที่ก้อนมีขนาดใหญ่หรือมีต่อมน้ำเหลืองเกี่ยวข้อง ดังนั้นการรู้สถานะของตัวรับฮอร์โมนต่างๆ จากชิ้นเนื้อที่ได้จากการเจาะจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ระหว่างรอผลการตรวจทางพยาธิวิทยา ควรส่งผู้ป่วยไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินระยะของโรค เช่น การตรวจซีทีสแกนช่อง chest ช่องท้องและอุ้งเชิงกราน การตรวจกระดูก เพื่อประเมินว่ามีโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นแล้วหรือไม่เมื่อได้ผลการตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าเป็นมะเร็งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการส่งผู้ป่วยให้ศัลยแพทย์เต้านมและแพทย์มะเร็งวิทยาเพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจประกอบด้วยการให้เคมีบำบัดก่อนผ่าตัด การผ่าตัดเต้านมแบบสงวนเต้าหรือตัดเต้านมออกทั้งหมด การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ การให้รังสีรักษา การให้ฮอร์โมนบำบัด หรือการรักษาแบบมุ่งเป้า ขึ้นอยู่กับผลการตรวจทางพยาธิวิทยาและระยะของโรค
โดยสรุปแล้ว การตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ภายใต้การแนะนำของอัลตราซาวด์เป็นวิธีการวินิจฉัยที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยรายนี้ เนื่องจากให้ความแม่นยำสูง เป็นขั้นตอนที่ทำได้ไม่ยาก และให้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการวางแผนการรักษาในขั้นตอนต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ


