แชร์

สารอันตรายในยากำจัดวัชพืช ?

135 ผู้เข้าชม

หญิงอายุ 25 ปีอาชีพทําสวน ถูกนําส่งโรงพยาบาล หลังจากทะเลาะกับสามีแล้วกินยากําจัดวัชพืชชนิดหนึ่ง เกิดไต วายและระบบหายใจล้มเหลว ถามว่าสารนั้นคืออะไร?

A. Paraquat

B. Arsenic compound

C. CCl4

D. Organophosphate

E. Zinc phosphide

เฉลย: A. Paraquat

เหตุผล:

-Paraquat เป็นยาฆ่าวัชพืชที่อันตรายมาก เมื่อกินเข้าไปจะถูกดูดซึมเร็ว และไปสะสมที่ปอดกับไต

-ไตวายเฉียบพลัน เกิดจากการทำลาย tubular cells ของไต

-ระบบหายใจล้มเหลว เกิดจาก pulmonary fibrosis ตามมาใน 23 วัน ถึง 12 สัปดาห์ (เกิดจาก redox cycle oxidative stress ทำลายปอด)

ทำไมตัวเลือกอื่นไม่น่าจะใช่:

B. Arsenic compound เป็นสารกำจัดแมลงหรือสารฆ่าหนู อาการหลักคือ ทางเดินอาหารรุนแรง (อาเจียน ท้องเสีย) ช็อก
ไม่มี pulmonary fibrosis แบบ Paraquat

C. CCl4 (คาร์บอนเตตระคลอไรด์) เป็นตัวทำละลาย ทำลายตับรุนแรง (ตับอักเสบ/ตับวาย) ไตวายได้บ้าง แต่ไม่เด่นเรื่อง pulmonary fibrosis

D. Organophosphate เป็นยาฆ่าแมลง อาการหลัก: กระตุ้น muscarinic + nicotinic receptor น้ำลายฟูมปาก หายใจลำบากจาก bronchoconstriction และ respiratory muscle paralysis ไม่ทำให้เกิด pulmonary fibrosis แบบ Paraquat

E. Zinc phosphide เป็นสารฆ่าหนู เมื่อสัมผัสกรดในกระเพาะจะเกิดก๊าซ phosphine ทำลายระบบหายใจได้แต่เป็นแบบ acute lung injury ไม่ใช่ fibrosis แบบก้าวหน้า อาการหลักคือ อาเจียน (มีเลือด) ปวดท้อง ช็อก

ข้อแนะนำสำหรับบุคลากรทางการแพทย์

-วินิจฉัยให้เร็วที่สุด: ถามประวัติการสัมผัสสารชนิดใด ดูอาการนำ เช่น ปวดmouth/esophagus, อาเจียน, ท้องเสีย, ปวดท้อง

-ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการด่วน: ตรวจ Paraquat ในเลือด/ปัสสาวะ (ถ้ามีบริการ) เพื่อยืนยันและพยากรณ์โรค
รักษาแบบประคับประคอง:

  • ล้างท้อง (ถ้ามาถึงโรงพยาบาลภายใน 1-2 ชม.)
  • ให้ activated charcoal อย่างเร็วเพื่อลดการดูดซึม
  • อาจพิจารณา Hemodialysis เพื่อช่วยลดระดับสารในเลือดและจัดการไตวาย

-หลีกเลี่ยงออกซิเจนสูงไม่จำเป็น: เพราะออกซิเจนจะเร่งการเกิด pulmonary fibrosis ในกรณี Paraquat (ให้ออกซิเจนเมื่อจำเป็นเท่านั้นเมื่อมี hypoxia รุนแรง)

-ติดตามระบบหายใจและไตอย่างใกล้ชิด: แม้ผู้ป่วยอาจดูดีในวันแรก แต่สามารถ deteriorate ได้เร็วจาก pulmonary fibrosis ใน 2-3 วัน

ข้อระวังสำหรับประชาชนและเกษตรกร

-เก็บสารให้ปลอดภัย: ล็อคให้มิดชิด ห่างจากเด็กและบุคคลในครอบครัว

-ไม่เก็บในขวดน้ำหรือขวดน้ำอัดลม: เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดได้

-ใส่ชุดเมื่อใช้: ถุงมือ หน้ากาก เสื้อแขนยาว

-ไม่ผสมหรือใช้ด้วยความโกรธหรืออารมณ์: อุบัติเหตุหรือการทำร้ายตัวเองมักเกิดในสถานการณ์ emotionally charged

-รู้เส้นทางขอความช่วยเหลือ: เก็บเบอร์ศูนย์พิษสาร (Poison Center) ไว้ใกล้ตัว


บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดการภาวะครรภ์เป็นพิษที่อายุครรภ์ครบกำหนด?
ผู้ป่วยหญิงอายุ 42 ปี ตั้งครรภ์ที่ 4 อายุครรภ์ 37 สัปดาห์ มีความดันโลหิตสูง 160/100 mmHg พบโปรตีนในปัสสาวะ 3+ ปากมดลูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง และ NST ปกติ การจัดการรักษาที่เหมาะสมและเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คืออะไร?
การดูแลทารกที่เกิดจากมารดาติดเชื้อซิฟิลิส?
มารดาที่มีผลตรวจ VDRL และ FTA-ABS reactive (เป็นบวก) เมื่อ 2 เดือนก่อนคลอด และได้รับยา erythromycin เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนคลอด ทารกแรกเกิดควรได้รับการจัดการดูแลอย่างไร?
การรักษาโรคไมเกรนในหญิงตั้งครรภ์?
ผู้ป่วยหญิงอายุ 30 ปี ตั้งครรภ์ มีประวัติปวดศีรษะบ่อยๆ เห็นแสงวูบวาบ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไมเกรน วิธีรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดในผู้ป่วยรายนี้ (ขณะตั้งครรภ์) คือข้อใด?
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy