แชร์

ผู้ป่วยมะเร็งน้ำเหลือง หลังเคมีบำบัด ไข้หนาวสั่น เม็ดเลือดขาวต่ำมาก จัดการอย่างไร?

12 ผู้เข้าชม
ผู้ป่วยมะเร็งน้ำเหลือง ได้รับเคมีบำบัด ตามมาด้วยมีไข้หนาวสั่น เม็ดเลือดขาว 400 cells/mm³ การจัดการที่เหมาะสมที่สุดคืออะไร?
A. ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว (G-CSF)
B. ยาเซฟตาซิดิม
C. ยาอะมอกซีซิลลิน/คลาวูลาเนต
ตอบ B. ยาเซฟตาซิดิม (Ceftazidime) 
จากประวัติผู้ป่วยโรค lymphoma ที่ได้รับเคมีบำบัด (CMT) และมีอาการไข้หนาวสั่น ร่วมกับผลตรวจพบเม็ดเลือดขาวต่ำมากเพียง 400 cells/mm³ อาการทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่สำคัญ คือ ภาวะไข้ร่วมกับเม็ดเลือดขาวต่ำ (Febrile Neutropenia) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
กลไกทางพยาธิสรีรวิทยา:
ภาวะไข้ร่วมกับเม็ดเลือดขาวต่ำในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดเกิดจากการที่ยาเคมีบำบัดไปกดการทำงานของไขกระดูก ทำให้การผลิตเม็ดเลือดขาวโดยเฉพาะนิวโทรฟิล (neutrophil) ลดลงอย่างรุนแรง เม็ดเลือดขาวเหล่านี้เป็นด่านแรกของการป้องกันการติดเชื้อของร่างกาย การที่มีนิวโทรฟิลต่ำกว่า 500 cells/mm³ ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อรุนแรง แม้แต่เชื้อแบคทีเรียปกติในร่างกายก็สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้
การวิเคราะห์ตัวเลือกการรักษา:
เมื่อพิจารณาตัวเลือกการรักษาที่มีอยู่ B. ยาเซฟตาซิดิม (Ceftazidime) เป็นการรักษาที่เหมาะสมและสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรก
เหตุผลเชิงลึกทางการแพทย์ที่เลือกเซฟตาซิดิม:
การครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียที่เหมาะสม:
เซฟตาซิดิมเป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มเซฟาโลสปอรินรุ่นที่ 3
มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียแกรมลบได้กว้างขวาง รวมถึง Pseudomonas aeruginosa ซึ่งเป็นเชื้อที่พบบ่อยและรุนแรงในภาวะนี้
สามารถผ่านเข้าไปในเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ดี
ความสอดคล้องกับแนวทางการรักษามาตรฐานสากล:
ตามแนวทางของสมาคมโรคติดเชื้ออเมริกัน (IDSA) และสมาคมมะเร็งวิทยาอเมริกัน (ASCO)
การใช้ยาปฏิชีวนะชนิดครอบคลุมเชื้อกว้างทางหลอดเลือดดำเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
เซฟตาซิดิมเป็นหนึ่งในยาที่แนะนำเป็น first-line treatment
การพิจารณาสถานการณ์ผู้ป่วย:
ผู้ป่วยมีเม็ดเลือดขาวต่ำอย่างรุนแรง (400 cells/mm³)
มีไข้หนาวสั่นซึ่งบ่งชี้ถึงการติดเชื้อรุนแรง
อยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด
การพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ:
A. จี-ซีเอสเอฟ (G-CSF):
เป็น granulocyte colony-stimulating factor ใช้กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว
สำคัญแต่ไม่ใช่การรักษาแรกสำหรับควบคุมการติดเชื้อ
ควรให้หลังจากเริ่มยาปฏิชีวนะแล้ว หรือในกรณีที่มีความเสี่ยงสูงมาก
C. อะมอกซีซิลลิน/คลาวูลาเนต (Amoxicillin/Clavulanate):
ครอบคลุมเชื้อไม่กว้างพอสำหรับภาวะนี้
ไม่มีฤทธิ์ต่อ Pseudomonas aeruginosa
มักใช้ในการติดเชื้อในชุมชนที่ไม่รุนแรง
แนวทางการจัดการผู้ป่วยอย่างครบถ้วน:
ให้เซฟตาซิดิมทางหลอดเลือดดำทันที
ประเมินแหล่งการติดเชื้อ โดยการตรวจร่างกายอย่างละเอียด
ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การเพาะเลือด การตรวจปัสสาวะ และการตรวจอื่นๆ ตามอาการ
พิจารณาการให้จี-ซีเอสเอฟ เพื่อเร่งการฟื้นตัวของเม็ดเลือดขาว
ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยวิกฤต
ข้อควรระวัง:
ต้องประเมินการตอบสนองต่อการรักษาภายใน 48-72 ชั่วโมง
หากอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องพิจารณาเพิ่มยาปฏิชีวนะชนิดอื่นหรือยาต้านเชื้อรา
ดูแลเรื่องสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม
โดยสรุป การให้เซฟตาซิดิมเป็นวิธีการจัดการที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นการรักษาที่ตรงกับสาเหตุหลักของภาวะไข้ร่วมกับเม็ดเลือดขาวต่ำ และสอดคล้องกับแนวทางมาตรฐานสากล ที่สำคัญคือต้องให้การรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy