หญิงอายุ 20 ปี เป็น DM type I น้ำตาลในเลือก 560 mg/dL ตรวจพบ ketone ในปัสสาวะ ถามว่าเกิดกระบวนการใด?

หญิงอายุ 20 ปี เป็น DM type I น้ำตาลในเลือก 560 mg/dL ตรวจพบ ketone ในปัสสาวะ ถามว่าเกิดกระบวนการใดใน ร่างกาย?
A. Beta-oxidation
B. gluconeogenesis
C. Tricarboxylic acid cycle
D. EmbdenMeyerhof pathway
E. Hexose monophosphate shunt
คำตอบ: A. Beta-oxidation
เหตุผล:
ผู้ป่วยเป็น เบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งร่างกายขาดอินซูลินอย่างรุนแรง ร่วมกับมี น้ำตาลในเลือดสูงมาก (560 mg/dL) และ ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ แสดงว่าเป็น ภาวะ diabetic ketoacidosis (DKA)
ในภาวะขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้ แม้จะมีน้ำตาลในเลือดสูง เซลล์จึงอยู่ในสภาวะขาดพลังงาน (cellular starvation)
เพื่อให้ได้พลังงาน ร่างกายจะเร่งกระบวนการ Beta-oxidation ซึ่งเป็นการสลายกรดไขมันในไมโตคอนเดรีย เพื่อให้ได้ acetyl-CoA จำนวนมาก
Acetyl-CoA ที่ได้ส่วนหนึ่งจะเข้าสู่ TCA cycle (C) แต่เมื่อมีมากเกินไป จะถูกเปลี่ยนเป็น ketone bodies (acetone, acetoacetate, beta-hydroxybutyrate) ในตับ ทำให้เกิดภาวะคีโตซิสและคีโตนในปัสสาวะ
ทำไมไม่เลือกข้ออื่น:
B. Gluconeogenesis ในภาวะ DKA ก็มี gluconeogenesis เพิ่มขึ้นเช่นกัน (ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้น) แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดคีโตน
C. Tricarboxylic acid cycle เกิดได้ลดลงในภาวะขาดอินซูลิน เพราะ oxaloacetate ถูกดึงไปใช้ใน gluconeogenesis ทำให้ acetyl-CoA ไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรนี้ได้หมด จึงเปลี่ยนไปเป็นคีโตน
D. EmbdenMeyerhof pathway (glycolysis) ในภาวะขาดอินซูลิน glycolysis ลดลง เพราะเซลล์ขาดกลูโคส
E. Hexose monophosphate shunt (Pentose phosphate pathway) ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตพลังงานหรือการสร้างคีโตน
สรุป:
กลไกหลักที่ทำให้เกิดคีโตนใน DKA คือการที่ร่างกายหันมาใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลักผ่าน Beta-oxidation ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างคีโตนบอดีส์ ดังนั้น A. Beta-oxidation จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในบริบทนี้


