ชายอายุ 35 ปี หนีออกมาจากบ้านไฟไหม้มีบาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวา ถามว่าบาดแผลแบบใดเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นมากที่สุด?

ชายอายุ 35 ปี หนีออกมาจากบ้านไฟไหม้ มีบาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวา ถามว่าบาดแผลแบบใด เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น มากที่สุด?
A. แผลพุพอง
B. แผลแห้งแดง
C. แผลแสบร้อน
D. แผลมีขนหลุดร่วง
E. แผลมี capillary refill ภายใน 2 วินาที
คำตอบ: B. แผลแห้งแดง
เหตุผล:
แผลไหม้แบ่งตามความลึก:
A. แผลพุพอง มักเป็นแผลไหม้ระดับผิวเผินลึกบางส่วน (superficial partial-thickness) พองน้ำใส มีความเจ็บปวดมาก มีโอกาสหายเองและเป็นแผลเป็นน้อย
B. แผลแห้งแดง อธิบายได้ทั้ง deep partial-thickness ถึง full-thickness burn
แต่ถ้า สีแดงแต่แห้ง ไม่มีตุ่มน้ำ และความรู้สึกเจ็บลดลง มีแนวโน้มเป็น deep partial-thickness burn หรืออาจเป็น full-thickness burn ที่เลือดแดงยังอยู่ ซึ่งมีโอกาสเกิด แผลเป็น (hypertrophic scar หรือ keloid) สูง เนื่องจากมีการทำลายชั้น dermis ลึกและกระบวนการหายสมานแผลแบบ secondary intention
C. แผลแสบร้อน เป็นความรู้สึก อาการ ไม่ใช่ลักษณะของแผล
D. แผลมีขนหลุดร่วง บ่งบอกว่ามีการทำลาย hair follicles ซึ่งพบใน deep partial-thickness หรือ full-thickness burn เป็นแผลที่เสี่ยงเป็นแผลเป็นได้ แต่โจทย์ไม่มีข้อมูลเพิ่ม
E. แผลมี capillary refill ภายใน 2 วินาที บ่งบอกว่าเลือดยังไปเลี้ยงได้ดี มักเป็น superficial หรือ superficial partial-thickness burn เสี่ยงเป็นแผลเป็นน้อย
แผลไหม้ที่เสี่ยงเกิดแผลเป็นมากที่สุด คือ deep partial-thickness burn และ full-thickness burn
ใน full-thickness burn: ผิวหนังขาว/ดำ/น้ำตาล แห้ง ไม่รู้สึกเจ็บ (เพราะประสาทถูกทำลาย)
แต่ถ้าโจทย์บอกว่า แผลแห้งแดง อาจหมายถึง deep partial-thickness burn ที่สีแดงคล้ำ/แดงสดแต่แห้ง ไม่พุพอง เนื่องจากเส้นเลือดฝอยบางส่วนยังอยู่แต่ผิวตายบางส่วน รักษายาวและเกิดแผลเป็นมาก
สรุป: จากตัวเลือก B. แผลแห้งแดง เป็นลักษณะของแผลไหม้ระดับลึก ซึ่งมีการทำลายชั้น dermis มาก กระตุ้น collagen มากเกินในกระบวนการหาย แผลเป็น hypertrophic/keloid


