วัยกลางคน ไข้ ตัวเหลือง มีน้ำในช่องท้อง ตรวจอะไร?
10 ผู้เข้าชม

ผู้ป่วยวัยกลางคนมีไข้และตัวเหลืองตาเหลืองมา 1 สัปดาห์ ตรวจร่างกาย: ตาขาวเหลือง ตาแดงซีดเล็กน้อย ช่องท้องมีน้ำในช่องท้อง
1.ตรวจ HBsAg ( Hepatitis B surface Antigen)
2.ตรวจ HBeAg (Hepatitis B e Antigen)
3.ตรวจ Anti-HBs IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis B surface antigen)
4.ตรวจ Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
ตอบ 4. Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
จากอาการผู้ป่วยวัยกลางคนที่มีไข้และดีซ่านมา 1 สัปดาห์ ร่วมกับการตรวจร่างกายพบตาขาวเหลือง ตาแดงซีดเล็กน้อย และมีน้ำในช่องท้อง (ascites) อาการทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงภาวะตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือมีน้ำในช่องท้อง
เมื่อพิจารณาลักษณะทางคลินิก ได้แก่ ไข้ ดีซ่าน และน้ำในช่องท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้ต้องคิดถึงสาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงพอที่จะทำให้การทำงานของตับล้มเหลวและเกิดน้ำในช่องท้องได้ในเวลาอันสั้น
การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยรายนี้คือ 4. Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
เหตุผลเชิงลึกทางการแพทย์ที่เลือก Anti-HAV IgM:
1. ลักษณะทางคลินิกที่สอดคล้องกับ Hepatitis A:
Hepatitis A virus ทำให้เกิด acute hepatitis แบบเฉียบพลัน
มักมีอาการนำเป็นไข้ก่อนแล้วตามด้วยดีซ่าน
สามารถเกิด acute liver failure ได้ในกรณีรุนแรง
การที่มีน้ำในช่องท้องบ่งชี้ถึง severe acute hepatitis
2. กลไกการเกิดโรคและพยาธิกำเนิด:
Hepatitis A เป็น RNA virus ติดต่อผ่านทาง fecal-oral route
virus เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหารแล้วไปที่ตับ
ทำให้เกิด hepatocellular damage อย่างรวดเร็ว
ในกรณีรุนแรงอาจเกิด acute hepatic failure ด้วย
3. Timeline ของการเกิดอาการ:
ระยะฟักตัว 2-6 สัปดาห์ สอดคล้องกับประวัติอาการ 1 สัปดาห์
ไข้และดีซ่านเป็นอาการ classic ของ acute hepatitis
การวิเคราะห์ตัวเลือกอื่นๆ:
1. HBsAg:
บ่งชี้การติดเชื้อ Hepatitis B
แต่ส่วนใหญ่จะเป็น chronic infection
Acute hepatitis B พบได้น้อยกว่า
มักไม่ทำให้เกิด ascites รวดเร็วแบบนี้
2. HBeAg:
บ่งชี้ viral replication ใน Hepatitis B
ไม่ใช่การตรวจแรกสำหรับ acute hepatitis
มักใช้ในการประเมินการติดเชื้อเรื้อรัง
3. Anti-HBs IgM:
ไม่ใช่การตรวจมาตรฐาน
Anti-HBs มักเป็น IgG และบ่งชี้ immunity
ไม่เหมาะสมสำหรับการวินิจฉัย acute infection
การตรวจเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา:
Liver function tests (AST, ALT, Bilirubin, Albumin)
Coagulation profile (PT, INR)
Complete blood count
Abdominal ultrasound
Viral markers for other hepatitis viruses
การจัดการผู้ป่วย:
รับไว้รักษาในโรงพยาบาล
ให้การรักษาประคับประคอง
ตรวจติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด
พิจารณาการส่งต่อศูนย์ปลูกตับหากมี acute liver failure
โดยสรุป การตรวจ Anti-HAV IgM เป็นการตรวจที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากอาการทางคลินิกสอดคล้องกับ acute hepatitis A รุนแรง ซึ่งสามารถอธิบายการมีไข้ ดีซ่าน และน้ำในช่องท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้
1.ตรวจ HBsAg ( Hepatitis B surface Antigen)
2.ตรวจ HBeAg (Hepatitis B e Antigen)
3.ตรวจ Anti-HBs IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis B surface antigen)
4.ตรวจ Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
ตอบ 4. Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
จากอาการผู้ป่วยวัยกลางคนที่มีไข้และดีซ่านมา 1 สัปดาห์ ร่วมกับการตรวจร่างกายพบตาขาวเหลือง ตาแดงซีดเล็กน้อย และมีน้ำในช่องท้อง (ascites) อาการทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงภาวะตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือมีน้ำในช่องท้อง
เมื่อพิจารณาลักษณะทางคลินิก ได้แก่ ไข้ ดีซ่าน และน้ำในช่องท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้ต้องคิดถึงสาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงพอที่จะทำให้การทำงานของตับล้มเหลวและเกิดน้ำในช่องท้องได้ในเวลาอันสั้น
การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยรายนี้คือ 4. Anti-HAV IgM (แอนติบอดีต่อ Hepatitis A virus)
เหตุผลเชิงลึกทางการแพทย์ที่เลือก Anti-HAV IgM:
1. ลักษณะทางคลินิกที่สอดคล้องกับ Hepatitis A:
Hepatitis A virus ทำให้เกิด acute hepatitis แบบเฉียบพลัน
มักมีอาการนำเป็นไข้ก่อนแล้วตามด้วยดีซ่าน
สามารถเกิด acute liver failure ได้ในกรณีรุนแรง
การที่มีน้ำในช่องท้องบ่งชี้ถึง severe acute hepatitis
2. กลไกการเกิดโรคและพยาธิกำเนิด:
Hepatitis A เป็น RNA virus ติดต่อผ่านทาง fecal-oral route
virus เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหารแล้วไปที่ตับ
ทำให้เกิด hepatocellular damage อย่างรวดเร็ว
ในกรณีรุนแรงอาจเกิด acute hepatic failure ด้วย
3. Timeline ของการเกิดอาการ:
ระยะฟักตัว 2-6 สัปดาห์ สอดคล้องกับประวัติอาการ 1 สัปดาห์
ไข้และดีซ่านเป็นอาการ classic ของ acute hepatitis
การวิเคราะห์ตัวเลือกอื่นๆ:
1. HBsAg:
บ่งชี้การติดเชื้อ Hepatitis B
แต่ส่วนใหญ่จะเป็น chronic infection
Acute hepatitis B พบได้น้อยกว่า
มักไม่ทำให้เกิด ascites รวดเร็วแบบนี้
2. HBeAg:
บ่งชี้ viral replication ใน Hepatitis B
ไม่ใช่การตรวจแรกสำหรับ acute hepatitis
มักใช้ในการประเมินการติดเชื้อเรื้อรัง
3. Anti-HBs IgM:
ไม่ใช่การตรวจมาตรฐาน
Anti-HBs มักเป็น IgG และบ่งชี้ immunity
ไม่เหมาะสมสำหรับการวินิจฉัย acute infection
การตรวจเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา:
Liver function tests (AST, ALT, Bilirubin, Albumin)
Coagulation profile (PT, INR)
Complete blood count
Abdominal ultrasound
Viral markers for other hepatitis viruses
การจัดการผู้ป่วย:
รับไว้รักษาในโรงพยาบาล
ให้การรักษาประคับประคอง
ตรวจติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด
พิจารณาการส่งต่อศูนย์ปลูกตับหากมี acute liver failure
โดยสรุป การตรวจ Anti-HAV IgM เป็นการตรวจที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากอาการทางคลินิกสอดคล้องกับ acute hepatitis A รุนแรง ซึ่งสามารถอธิบายการมีไข้ ดีซ่าน และน้ำในช่องท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้


